ล่าสุด วันที่ 11 ธันวาคม ศูนย์ทนายฯ เปิดเผยความคืบหน้าว่า ศาลจังหวัดขอนแก่นอ่านคำสั่งศาลฎีกาไม่ให้ประกันทิวากร เกษตรกรชาวขอนแก่น วัย 49 ปี ในคดี #ม112 หลังทนายยื่นประกันระหว่างฎีกาเป็นครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เสนอเงินประกัน 500,000 บาท พร้อมเสนอเงื่อนไขให้ศาลห้ามออกนอกประเทศและกำหนดนัดรายงานตัวต่อศาล และอ้างเหตุถูกขังมากว่า 3 เดือนแล้ว ครอบครัวได้รับผลกระทบ
คำสั่งไม่ให้ประกันของศาลฎีกาอ้างเหตุผลว่า เหตุที่อ้างตามคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกามิใช่เหตุเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง
ทำให้ทิวากรยังคงถูกขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นต่อไป หลังถูกขังในคดีนี้มา 120 วันแล้ว
นอกจากนี้ ศูนย์ทนายความฯ รายงานความคืบหน้าอีกคดีว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนยกฟ้องข้อหา ม.112 ของ “ศิระพัทธ์” กรณีที่ถูกกล่าวหาปลดพระบรมฉายาลักษณ์จากหน้าหมู่บ้าน และนำกรอบรูปทิ้งลงคลอง เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2564
พิเคราะห์ว่าในส่วนข้อกล่าวหาตาม ม.112 โจทก์อุทธรณ์ว่าเป็นพฤติการณ์ร้ายแรง จำเลยทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม
แต่ในการพิจารณาคดี เห็นว่ากรอบรูปมีลักษณะใหญ่ ลำพังจำเลยคนเดียวไม่สามารถเคลื่อนย้ายด้วยตัวคนเดียวได้ การคว่ำและลากไปเป็นลักษณะของการลักทรัพย์ แต่ไม่สามารถแสดงถึงเจตนาว่าเป็นความผิดตาม ม.112 ได้ อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น
ส่วนในข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อให้ยกฟ้อง และให้มีความผิดในฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และลักทรัพย์ในยามวิกาล ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นพ้องด้วยให้พิพากษายืน โทษจำคุกรอลงอาญา