เรียกได้ว่า เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มีชื่อเสียงมานานว่ามีคุณประโยชน์มากมาย มีวิตามิน และสารอาหารดีๆ ที่ช่วยบำรุงร่างกายหลายอย่าง บางคนอาจจะมองข้าม เพราะหน้าตาดูไม่ค่อยน่ากินเท่าไร วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักกับผลไม้ชื่อดังทางเหนือ ที่กำลังเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยทั่วไปมากขึ้น คือ เคพกูสเบอร์รี่ (Cape Gooseberry) หรือที่บางคนเรียกว่า โทงเทงฝรั่ง
ลักษณะของเคพกูสเบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ลูกกลมๆ เมื่อสุกแล้วจะมีสีเหลืองอมส้ม อยู่ภายใต้กลีบดอกบางๆ สีเหลืองอ่อนที่หุ้มลูกกลมๆ แต่ละลูกอยู่ นอกจากจะมีชื่อไทยว่า “โทงเทงฝรั่ง” แล้ว ยังมีอีกชื่อหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาใหม่ว่า “ระฆังทอง” อีกด้วย
แหล่งผลิตเคพกูสเบอร์รี่
เคพกูสเบอร์รี่เป็นผลผลิตที่ได้จากการส่งเสริม และพัฒนาผลไม้ขนาดเล็ก มูลนิธิโครงการหลวงของเราเองนี่แหละค่ะ เป็นหน่งในพืชที่ทางโครงการสนับสนุนชาวบ้านให้ปลูกทดแทนไร่ฝิ่นนั่นเอง ดังนั้นชาวบ้าน หรือชาวเขาแถบภาคเหนือจึงเริ่มปลูกเคพกูสเบอร์รี่กันมาก
รสชาติของเคพกูสเบอร์รี่
เมื่อสุกเป็นสีเหลืองอมส้มแล้ว จะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว สามารถทานเดี่ยว จิ้มเกลือ หรือพลิกแพลงทานเป็นของว่างอย่างอื่นได้ เช่น ทานกับผักสลัด ทำสมูธตี้ ทำแยม เชื่อม อบแห้ง ชุบช็อคโกแลต ชุบน้ำผึ้ง ฯลฯ
6 ประโยชน์สุดอัศจรรย์ของ เคพกูสเบอร์รี่ (Cape Gooseberry) หรือ โทงเทงฝรั่ง
1.เคพกูสเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยบำรุงกระดูก และฟัน เสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้
2.มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยในการมองเห็นทั้งในที่สว่าง และที่มืด
3.ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
4.ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปอด
5.เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส 6.ช่วยหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอก