ตามรายงานพบว่า “คุณหวัง” (นามสมมุติ) ชายวัย 66 ปีจากเมืองหางโจว ประเทศจีน เริ่มดื่มชาลดน้ำหนักหลังจากมีปัญหาท้องผูกเรื้อรัง โดยได้รับคำแนะนำจากคนรู้จัก ตอนแรกอาการดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงดื่มชาเป็นประจำทุกวัน กลายเป็นกิจวัตรที่ทำต่อเนื่องมานานถึง 2 ปี
แต่ไม่นานมานี้ อาการท้องผูกกลับมาอีกครั้ง แถมเริ่มมีอาการแน่นท้องและปวดท้องร่วมด้วย ทำให้คุณหวังตัดสินใจไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหมายเลข 1 เมืองหางโจว หลังจากทำการส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหาร แพทย์ต้องตกใจเมื่อพบว่าผนังลำไส้ของผู้ป่วยมีลวดลายสีเข้มแต้มกระจายทั่ว คล้ายลาย “หนังงู” ซึ่งไม่ใช่สิ่งปกติในร่างกายมนุษย์
แพทย์ระบุว่า คุณหวังมีภาวะที่เรียกว่า “Melanosis Coli” หรือ ภาวะลำไส้มีเม็ดสี ซึ่งเกิดจากการใช้ยาระบายหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสารกระตุ้นลำไส้ในกลุ่มแอนทราควิโนน (เช่น ใบมะขามแขก ว่านหางจระเข้ หรือชะเอมจีน) เป็นเวลานาน
สารเหล่านี้จะกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานเร็วขึ้น แต่หากใช้ต่อเนื่องนานเกินไป จะทำให้เซลล์เยื่อบุลำไส้ตายและเกิดการสะสมของเม็ดสีคล้ำ ทำให้ลำไส้เปลี่ยนเป็นสีเข้มคล้ายลายงูอย่างที่เห็น แม้ภาวะนี้ไม่ใช่มะเร็ง แต่หากยังใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่อเนื่องโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้ลำไส้อ่อนแรงจนไม่สามารถทำงานได้เอง และเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ในระยะยาว
- ชายไม่ดื่ม-ไม่สูบ นอนตัวเหลืองรอ “เปลี่ยนตับ” หมอชี้ต้นเหตุ “น้ำโปรด” ที่ไม่ใช่เหล้าเบียร์!
- พิธีกรสาว เปิดสูตรลดน้ำหนัก “กฎมื้อเย็น” กินยังไงให้ผอมลง 50 กก. ผู้ชมตะลึงร่างใหม่!
นพ.โต้ว เยี่ย ซวิน แพทย์ผู้ทำการรักษา กล่าวเตือนว่า ช่วงหลังมานี้มีผู้ป่วยภาวะลำไส้มีเม็ดสีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัญหาท้องผูกเรื้อรัง หรือผู้ที่หันไปพึ่งชาสมุนไพรเพื่อลดน้ำหนักโดยไม่ศึกษาข้อมูลให้ดี “ยาระบายในกลุ่มแอนทราควิโนนอาจให้ผลเร็ว แต่ถ้าใช้ต่อเนื่องนานเกินไป ลำไส้จะเสียหายเรื้อรัง และเสี่ยงโรคร้ายแรงในอนาคต” แพทย์กล่าว
เขาแนะนำว่า หากมีปัญหาท้องผูก ควรเริ่มจากการปรับพฤติกรรม เช่น เพิ่มใยอาหารในมื้ออาหาร ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือเสริมด้วยโปรไบโอติก (จุลินทรีย์มีประโยชน์) แทนการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน
แล้วใครบ้างควรตรวจลำไส้ใหญ่? สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี หรือมีอาการท้องผูกเรื้อรัง ควรเข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เป็นประจำ โดยเฉพาะหากมีอาการเหล่านี้
- ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือมีเมือกปน
- ปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- รู้สึกอ่อนเพลีย มีอาการซีด
- ขับถ่ายไม่เป็นปกติ เช่น ถ่ายแข็งและเหลวสลับกัน
อย่าหลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักเกินจริง การดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนต้องเริ่มจากภายใน เลือกวิธีที่ปลอดภัย และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่อาจส่งผลต่อระบบขับถ่าย อย่างที่คุณหมอข้างต้นกล่าวไว้ว่า ลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าแลกด้วยสุขภาพ จนต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนดังเช่นกรณีของคุณหวัง