รวบแล้ว มือฆ่ารัดคอเด็ก ม.3 เป็นเพื่อนสนิท ยอมรับสารภาพลากศพทิ้งบ่อดินร้าง

รวบแล้วมือฆ่ารัดคอ นักเรียน ชั้น ม.3 เป็นเพื่อนสนิทอายุ 15 ปี ยอมรับสารภาพเป็นคนลงมือทำ โมโหเพื่อนด่าหยาบ ด้านแม่ผู้ต้องหา เผยลูกเรียนเก่ง ไม่เคยมีนิสัยโมโหร้าย

วันที่ 29 กันยายน 2567 มีรายงานว่า จากกรณี น้องฟาง เด็กชายอายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนวัดโพธิ์ ในต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ถูกฆ่ารัดคอทั้งชุดนักเรียนทิ้งศพในบ่อดินร้าง บ้านทอนไม้ไผ่ หมู่ 4 ต.คลองหอยโข่ง หลังจากที่หายไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำ ทะเบียน 1 กน 7182 สงขลาและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซึ่งญาติได้โพสต์ภาพตามหาจนกระทั่งคนเก็บเห็ดป่าไปพบร่าง ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : ฆ่านักเรียน ชั้น ม.3 ชิงรถจยย. หมกศพป่าละเมาะ เร่งสอบผู้ต้องสงสัย เป็นเพื่อน ๆ)

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหอยโข่ง และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้เรียกตัว ด.ช.เอ (นามสมมุติ) เพื่อนสนิท อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องมาสอบสวนที่ สภ.คลองหอยโข่ง เพราะเป็นคนสุดท้ายที่น้องฟางขับรถไปส่งที่บ้าน

จากการสอบสวนในตอนแรก ด.ช. เอ ยังนิ่งเงียบและปฏิเสธบอกว่าหลังจากส่งตนที่บ้านแล้ว ผู้ตายก็ขับรถออกไปเที่ยวต่อ และเมื่อตำรวจถามกลับไปกลับมา สุดท้าย ด.ช. เอ ก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าเพื่อน แล้วลากศพไปทิ้งในบ่อดินร้าง และชิงรถจักรยานยนต์ขับไปฝากไว้ที่บ้านแฟน ส่วนโทรศัพท์มือถือได้นำไปขายที่ร้านโทรศัพท์ เพราะโกรธที่เพื่อนด่าหยาบคายและได้ลงมือทำคนเดียว

หลังจากรับสารภาพ ตำรวจได้นำตัว ด.ช.เอ ไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำ ทะเบียน 1 กน 7182 สงขลา ที่ขับไปฝากไว้ที่บ้านแฟนในพื้นที่บ้านไร่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ และโทรศัพท์มือถือที่นำไปขายที่ร้านโทรศัพท์ และนำตัวไปชี้จุดที่เกิดเหตุที่นำศพเพื่อนไปทิ้งในบ่อดินร้าง ซึ่ง ด.ช.เอ ให้ความร่วมมือและเล่าเหตุการณ์ตอนก่อเหตุทุกขั้นตอน

เริ่มจากขับรถจักรยานยนต์มากับผู้ตาย โดยตนเป็นคนขับและพาเข้ามายังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นป่า จากนั้นได้จอดรถและลงไปต่อยอีกฝ่าย และชกต่อยกันขึ้น ซึ่งฟางสู้แรงไม่ได้เพราะตนตัวใหญ่กว่าจึงสลบไป

ทีแรกตนขับรถของผู้ตายออกไปแต่ก็ย้อนกลับมาอีกที เอาเชือกที่รัดกางเกงตัวเองไปรัดคอฟางที่นอนสลบแต่ยังหายใจอยู่ โดยรัดนานราว 1 นาที จนนิ่งไป และลากร่างเพื่อนไปทิ้งในบ่อดิน และจับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายออกไปรับแฟน และก็พาแฟนขับย้อนมาดูร่างของฟางที่บ่อดินอีกครั้ง จากนั้นได้พากันขับรถออกจากจุดเกิดเหตุไป และนำรถจักรยานยนต์ไปฝากไว้ที่บ้านแฟน ส่วนในทางคดีนี้หลังจากที่ยอมรับสารภาพตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางคดีเนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน

ต่อมาเวลา 14.00 น. แม่ของ ด.ช.เอ ผู้ต้องหาฆ่าน้องฟาง หลังทราบข่าวว่าลูกชายตนเองเป็นคนลงมือฆ่าน้องฟาง ก็ได้เดินทางมาพร้อมกับพี่ชายคนโตที่ สภ.คลองหอยโข่ง ซึ่งช่วงระหว่างรอพบหน้าลูกชายที่หน้าห้องสืบสวน พี่ชายได้โอบกอดแม่ตนเองพร้อมกับปลอบใจ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปพูดคุยสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยทางแม่ของ ด.ช.เอ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบว่าลูกชายได้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าเพื่อน แม่ถึงกับเข่าอ่อนน้ำตาไหล ไม่คิดว่าลูกชายของตัวเองจะเป็นคนลงมือฆ่าเพื่อนรัก โดยคุณแม่บอกว่าลูกชายเป็นลูกคนสุดท้อง คนที่ 4 ปกติเรียนหนังสือเก่ง และเป็นคนที่ไม่มีนิสัยโมโหร้ายและไม่ได้ติดยา ที่ผ่านมาลูกคบเพื่อนส่วนใหญ่ก็พามาที่บ้าน ส่วนใหญ่ก็สนิทสนมกับเพื่อนลูกทุกคนและไม่เคยมีข่าวว่าขัดแย้งใด ๆ กับเพื่อน หรือมีเรื่องมีราวกับเพื่อน และลูกชายเองก็มีแฟนคบมาหนึ่งปีแล้ว

แม่ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องฟางด้วย อยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่เองก็ไม่ทราบว่าลูกได้กระทำในสิ่งนี้ลงไป ไม่ได้เอะใจด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่เคยมีนิสัยแบบนี้ ส่วนในห้องเรียนมีเรื่องขัดใจกันหรือไม่แม่ก็ไม่ทราบ เมื่อกี้ลูกชายซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาบอกว่าแม่ไม่ต้องร้องไห้ ให้ทำใจดี ๆ ไว้

ทางด้าน พ.ต.ท.ภูวดล วิริยะนรางกูร รอง ผกก.สส.สภ.คลองหอยโข่ง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุพบศพน้องฟางก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.คลองหอยโข่ง ไปนำตัวเพื่อน ๆ ของน้องฟาง โดยวันที่แม่ของน้องฟางมาแจ้งความลูกชายตัวไปเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็ได้ให้ชุดสืบสวนตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดพบว่า ด.ช.เอ ขี่รถจักรยานยนต์ของน้องฟาง ซึ่งน้องฟางเป็นคนซ้อนท้าย โดย ด.ช.เอ ขี่รถออกจากโรงเรียนไปด้วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเลิกเรียนในช่วงบ่าย แล้วก็หายตัวไปเลยและเจ้าหน้าที่ก็พยายามหาตัวน้องฟางแต่ก็ไม่เจอ จึงได้ไปสอบถามข้อมูลกับ ด.ช.เอ และเพื่อนอีกคน โดยทั้งคู่บอกว่า น้องฟางมาส่ง ด.ช.เอ ที่บ้านคนสุดท้ายแล้วก็ขี่รถไปที่บ้านม่วงค่อม โดยบอกว่าจะไปขี่รถเล่นคนเดียว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เช็กสัญญาณมือถือของน้องฟางก็พบว่าสัญญาณขึ้นอยู่แถว ๆ บ้านต้นสร้าง ห่างจากจุดเกิดเหตุที่พบศพ 2-3 กิโลเมตร และอยู่ใกล้บ้านพักของ ด.ช.เอ อีกด้วย พอเจ้าหน้าที่โทรศัพท์เข้าไปก็จะโดนตัดสายทิ้ง เครื่องเปิดแต่ไม่รับ เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ตามสัญญาณมือถือไป พบสัญญาณมือถือแต่ไม่พบตัวน้องฟาง จนกระทั่งมาทราบข่าวจากชาวบ้านที่ออกมาเก็บเห็ดตามในตอนเช้าที่ริมตลิ่งของแอ่งน้ำจุดที่พบศพ เนื่องจากช่วงกลางคืนได้มีฝนตกลงมาและช่วงเช้าจะมีดอกเห็ดงอกออกมาซึ่งจะมีชาวบ้านออกมาเก็บเห็ดเป็นประจำ