ที่แท้ตำรวจ ขับฟอร์จูนเนอร์ปาดหน้าสาวกลางดึก อ้างคิดว่าสายส่งยา

กลุ่มชายฉกรรจ์ ขับฟอร์จูนเนอร์ปาดหน้าสาวกลางดึก พยายามลงมาจับตัว ที่แท้เป็นตำรวจ อ้างคิดว่าสายส่งยา ขอเจรจาผู้เสียหาย พร้อมจ่ายเยียวยา 1.5 แสนบาท ผู้การเชียงรายสอบเข้ม หากพบเจตนาอื่นสั่งฟันไม่เลี้ยง

จากกรณี สาวหน้าตาดี ชาวบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ขับรถฟอร์จูนเนอร์ปาดหน้ารถจักรยานยนต์ ก่อนที่คนนั่งเบาะหลังจะเปิดประตูลงมา ซึ่งเธอเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบิดรถจักรยานยนต์ไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้าน เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.49 น. ของวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมามีการแจ้งความไว้ที่ สภ.แม่ยาว เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามหาผู้ก่อเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า วานนี้ (9 ก.ย. 67) น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาที่ สภ.แม่ยาว เพื่อให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากทาง สภ.แม่ยาว ได้รับการแจ้งประสานจากผู้ก่อเหตุ และยอมรับว่า ชายบนรถคันดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เวียงเชียงรุ้ง กำลังทำหน้าที่ในการติดตามผู้ต้องหาคดียาเสพติด แต่เกิดผิดพลาดติดตามผิดตัว จนเกิดเหตุดังกล่าว จึงติดต่อขอมามอบตัว ด้านผู้บังคับการเชียงรายสั่งดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด หากพบเจตนาอื่นนอกเหนือจากการติดตามคนร้าย ให้ดำเนินการทางวินัยกับตัวผู้ก่อเหตุทันที

พ.ต.อ.สง่า ศรีวิชัย ผกก.สภ.แม่ยาว กล่าวว่า จากกรณีเหตุที่มีรถฟอร์จูนเนอร์จอดขวางทาง และได้มีชายฉกรรจ์ลงมาจากรถ และพยายามจะเรียกให้น้องผู้หญิงหยุดรถ แต่น้องผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงเกิดตกใจกลัว ขี่รถหลบหนีไปขอความช่วยเหลือ มีชาวบ้านช่วยเหลือจนปลอดภัย ซึ่งต่อมา วันที่ 8 ก.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเชียงรุ้ง ได้โทรประสานมาที่ สภ.แม่ยาว และยอมรับว่าพวกตนซึ่งนำโดย ด.ต.สมชาย ดวงคำ และผู้ช่วยตำรวจ จำนวน 2 คน ได้ไปทำหน้าที่ติดตามคนร้ายในคดียาเสพติดในวันดังกล่าว หลังทราบเรื่องว่าเป็นเหตุทำให้ชาวบ้านตื่นตกใจ จึงได้ติดต่อมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ยาว พร้อมกับรถยนต์คันก่อเหตุ (รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน กก 3300 สุราษฎร์ธานี) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สั่งอายัดไว้แล้ว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเชียงรุ้ง อ้างว่า ในวันดังกล่าวได้รับข้อมูลว่าจะมีผู้หญิงมาส่งยาเสพติดในพื้นที่ ต.แม่ยาว จึงได้นำกำลังออกติดตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ยาว จะไปตรวจสอบว่าบุคคลกลุ่มดังกล่าวได้ประสานในเรื่องการปฏิบัติงานข้ามพื้นที่เข้ามาหรือไม่ ซึ่งหากดูความผิดในเบื้องต้น คงเป็นความผิดลหุโทษในข้อหา “ทำผู้อื่นตกใจกลัวโดยการบังคับขู่เข็ญ” เป็นความผิดที่ทางพนักงานสอบสวนสามารถเปรียบเทียบปรับได้ ซึ่งทางผู้หญิงผู้เสียหายพร้อมกับญาติ จะเดินทางมาที่ สภ.แม่ยาว เพื่อให้ข้อมูลและตกลงค่าเสียหายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ

ผกก.สภ.แม่ยาว กล่าวว่า ทาง พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้กำชับใช้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ยาว คลี่คลายคดีนี้ให้ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องขอขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ ทำให้ชุดสืบสวนสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ในกรณีทางผู้ต้องหาได้มาติดต่อแสดงตัวด้วยตนเอง ทางเราก็จะต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ว่าจะสามารถดำเนินการในข้อกฎหมายอะไรได้บ้าง เบื้องต้นพบเป็นความผิดลหุโทษ แต่จะมีข้อหาอย่างอื่นเพิ่มอีกหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานเพิ่มเติม

“ในการดูแลเยียวยาน้องผู้หญิงซึ่งเป็นผู้เสียหาย ต้องขอขอบคุณทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสับเปลี่ยนมาคอยดูแลตรวจตราแถวบริเวณที่พักและที่ทำงานของผู้เสียหาย ส่วนทาง สภ.แม่ยาว ก็ได้เพิ่มช่องทางติดต่อผู้เสียหาย เพื่อจะสามารถแจ้งเหตุได้อย่างทันท่วงที” ผกก.สภ.แม่ยาว กล่าว

หลังจากทางผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายได้พูดคุยไกล่เกลี่ยกัน ในส่วนของความเสียหายของรถยนต์กระบะที่จอดข้างทาง ซึ่งถูกรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายเฉี่ยวชน ทางผู้ต้องหาขอชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของรถเป็นเงิน 5,000 บาท แต่ในส่วนของ น.ส.เอ ผู้เสียหาย ได้เรียกร้องค่าทำขวัญ 300,000 บาท แต่สุดท้ายพูดคุยตกลงกันที่ 150,000 บาท.

 

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature