เมียร่ำไห้ใจสลาย ลูก-สามี เป็นคนงานใน ตึกถล่ม เห็นซากถึงกับทรุด นั่งรอปาฏิหาริย์ ออกมาสภาพไหนก็ยอมรับ

วันที่ 29 มีนาคม 2568 รายงานจากตึกก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ริมถนนกำแพงเพชร2 ตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร ที่ถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้ที่เกี่ยวข้องยังคงพยายามค้นหาผู้ที่ยังคงสูญหายอยู่ในซากตึกอย่างต่อเนื่อง โดยมี K9 สุนัขตำรวจ ร่วมค้นหาด้ว ทั้งนี้ในบริเวณดังกล่าวได้มีการกางตั้งเต็นท์ไว้สำหรับให้ญาติของผู้ที่สูญหายมาคอยเฝ้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยความหวังที่จะพบญาติที่รอดชีวิต

ล่าสุดสำนักข่าวดังได้มีการเปิดเผยบทสัมภาษณ์ญาติ ที่มานั่งเฝ้ารออย่างใจจดรอปาฏิหาริย์ โดยน.ส.นฤมล เป็นญาติของผู้สูญหาย ร้องไห้พร้อมกับกอดกับญาติที่มาด้วยกันก่อนจะเปิดเผยว่า ลูกและสามีที่เป็นคนงานของอาคารดังกล่าวสูญหายพร้อมกับเพื่อนและลูกน้องรวม ทั้งหมด 6 คน ซึ่งขนาดนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งทั้งหมดทำหน้าที่เป็นช่างไฟที่มาก่อสร้างอาคารที่เกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุตนทราบว่า ทั้งหมดอยู่ที่ชั้น 27 ช่วงที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวตนก็ทักทางโทรศัพท์มาหาสามีและลูกแต่ไม่มีใครตอบกลับ ไม่สามารถติดต่อได้

ก่อนที่ตนจะโทรศัพท์มาหาเพื่อนคนงานคนอื่นแต่ก็ไม่มีใครรับสาย และมาทราบภายหลังว่าตึกที่ถล่มเป็นอาคารที่สามีและลูกทำงานอยู่ ทำให้ตนใจสลาย อยากจะมาดูตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไม่สามารถเดินทางมาได้

ยังหวังว่าแฟนและลูกจะรอด แต่เมื่อมาเห็นสภาพตึกที่ถล่มลงมาเป็นซาก ทำให้รู้สึกหมดหวัง แต่เหลือแค่ปาฏิหาริย์เท่านั้น ที่หนูกับพ่อหวังอยู่ พร้อมกับยืนยันว่าไม่ว่าลูกและสามีรวมถึงเพื่อนร่วมงานจะออกมาแต่สภาพไหนก็ยอมรับทุกอย่าง น.ส.นฤมล กล่าว

ขณะที่ นางจันทร์เพ็ญ แก้วน้อย อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นญาติของน.ส.อำพร แก้วน้อย อายุ 29 ปี น้องสาว และ นางนิภา มากระโทก อายุ 61 ปี ที่เป็นแม่เป็นคนงานที่อยู่ในอาคารดังกล่าว กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนกับน้องและแม่ทำงานอยู่กันคนละไซด์งานเมื่อวานนี้หลังเกิดเหตุได้ทราบจากเพื่อน คนงานด้วยกันว่าระหว่างที่แผ่นดินไหว ตึกกำลังถล่ม แม่กับน้องพยายามวิ่งหนีลงมาจากชั้น 5

ระหว่างนั้น แม่หกล้ม น้องจึงกลับไปช่วยเหลือก่อนที่จะติดต่อทั้ง 2 คน ไม่ได้อีกเลย ตนจึงมาเฝ้าคอยหวังว่าแม่กับน้องจะยังคงมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ จนถึงขนาดนี้ก็ยังเฝ้าคอยอยู่ ถึงแม้ว่าน้องกับแม่จะอยู่ในสภาพไหนตนเองก็อยากพาน้องกับแม่กลับบ้าน

รู้สึกบีบหัวใจมาก เฝ้ารออย่างมีความหวัง เพราะว่าแม่กับน้องรักกันมาก เชื่อว่าน้องเห็นแม่ล้ม จึงกลับเข้าไปช่วยเหลือ ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าสัญญาณชีพที่เจ้าหน้าที่พบจะเป็นแม่และน้องของหนู นางจันทร์เพ็ญ กล่าว