สลด เสี่ยเจ้าของอู่ ถูกรถป้ายแดงชนดับ ลากร่าง 20 ม. เมียปริ่มขาดใจ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 มี.ค. 2568 พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ พรรชณา สว.(สว.สอบสวน) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต บริเวณสี่แยกไฟแดงบางพฤกษ์ ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงและเขตบางเเค กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อม แพทย์เวรนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

สลด เสี่ยเจ้าของอู่ ถูกรถป้ายแดงชนดับ ลากร่าง 20 ม. เมียปริ่มขาดใจ

สลด เสี่ยเจ้าของอู่ ถูกรถป้ายแดงชนดับ ลากร่าง 20 ม. เมียปริ่มขาดใจ

สลด เสี่ยเจ้าของอู่ ถูกรถป้ายแดงชนดับ ลากร่าง 20 ม. เมียปริ่มขาดใจ

สลด เสี่ยเจ้าของอู่ ถูกรถป้ายแดงชนดับ ลากร่าง 20 ม. เมียปริ่มขาดใจ

ที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดงก่อนถึงหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าแยกกำนันแม้น แบ่งเป็นถนน 3 เลน เหตุเกิดเลนซ้ายสุด พบรถยนต์ 4 ประตู สีดำ ทะเบียนป้ายแดง จังหวัดนนทบุรี จอดอยู่สภาพกันชนหน้ายุบเสียหาย ตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถ พบซากรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ถูกชนล้มตะแคงพังเสียหายยับเยินติดคาอยู่ใต้ท้องรถ

ใกล้กันพบร่างนายสด แซ่ลี้ อายุ 62 ปี เป็นเจ้าของอู่ช่างซ่อมรถ (สมบัติ เจริญยนต์) สภาพนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศรีษะด้านขวา สวมเสื้อสีน้ำเงินทีแจ็คเก็ตคลุมสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน นอนเสียชีวิตบนพื้นถนน ตรวจสอบตรงสี่แยกก่อนถึงจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยขูดบนพื้นถนนยาวประมาณ 20 เมตร คาดเป็นจุดที่ผู้ตายถูกชน โดยทางภรรยาและครอบผู้ตายนั่งเฝ้าร่าง ร่ำไห้ ปริ่มใจจะขาดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ

สลด เสี่ยเจ้าของอู่ ถูกรถป้ายแดงชนดับ ลากร่าง 20 ม. เมียปริ่มขาดใจ

สลด เสี่ยเจ้าของอู่ ถูกรถป้ายแดงชนดับ ลากร่าง 20 ม. เมียปริ่มขาดใจ

สอบสวนพยานเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตาย ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถอยู่ซอยศาลธนบุรี 17 ถนนกำนันแม้น กำลังขับขี่รถ จักรยานยนต์เพื่อไปเอาอะไหล่ที่ร้านอู่ซ่อมของน้องสาว ที่อยู่ถนนบางแค ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ

โดยผู้ตายขับขี่รถจักรยายนต์มาจากถนนกำนันแม้น ตรงเข้าเส้นกัลปพฤกษ์ เมื่อมาถึงสี่แยก กำลังจะเลี้ยวขวาตรงสี่แยกไฟแดงจุดเกิดเหตุ เข้าถนนบางแค จู่ ๆ มีรถยนต์คู่กรณี ขับตรงมาจากถนนกัลปพฤกษ์ในเลนซ้ายสุด ซึ่งเป็นเลนเลี้ยว ประกอบกับเป็นช่วงไฟเหลือง รถยนต์ดังกล่าวได้ขับพุ่งตรงฝ่าสัญญาณไฟชนรถจักรยายนต์ผู้ตายที่เลี้ยวขวามา ก่อนจะลากร่างและรถ จยย.ไปไกล กว่า 20 เมตร ส่งผลให้ศรีษะผู้ตายไปกระแทกกับก้อนหินริมฟุตปาธจนเสียชีวิต โดยคนขับรถยนต์คู่กรณีเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่จุดเกิดเหตุ พร้อมเชิญพยานและคนขับรถคู่กรณีไปสอบปากคำที่ สน. ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่มอบให้อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ก่อนประสานญาติรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป