นายยุรนันต์ อายุ 35 ปี ได้มีการร้องทุกข์ว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ลูกชายตนเองชื่อ นายวรากร อายุ 15 ปี ถูกนายขวัญ อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนเดียวกันใช้อาวุธมีดแทงลูกชายตนเองในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีกับคนก่อเหตุจนถึงตอนนี้ทางผู้ก่อเหตุไม่ยอมรับผิดชอบและคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด อีกทั้งทำให้เสียเวลาในการสอบปิดภาคเรียนอีกด้วย จึงเป็นสาเหตุได้ร้องทุกข์สื่อเข้ามาเพื่อช่วยติดตามคดีและขอความเป็นธรรม
ที่บ้านพักนายยุรนันต์ พบกับนางสาวลมัย อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวและนายวรากร อายุ 15 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธแทง จากนั้นนางสาวลมัยได้นำหลักฐานเสื้อนักเรียนของหลานชายที่ใส่ในวันเกิดเหตุซึ่งมีรอยโดนแทงจนเป็นรูประมาณ 8 รู และยังมีคราบเลือดติดอยู่ พร้อมกับนำภาพที่หลานชายตนเองต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งบาดแผลที่ถูกนายขวัญใช้อาวุธมีดแทง พบว่าโดนแทง เข้าที่กระพุ้งแก้มด้านซ้าย หน้าอกขวา เอวด้านขวาและซี่โครงด้านซ้าย
จากการสอบถาม นายวรากร เล่าว่า สาเหตุเริ่มต้นมาจากตอนนั้นตนเองอยู่ ม.2 เทอม 1 ได้ทะเลามีปากเสียงกันในแช็ตส่วนตัวเรื่องผู้หญิง จากนั้นได้มีการนัดเคลียร์กันแต่ต่างคนต่างไม่ได้ไปตามนัดต่อมาได้มีรุ่นพี่ทักมาหาตนว่าให้จบทั้ง 2 ฝ่าย ตนก็ยอมจบตั้งแต่นั้นมา ต่อมาตนก็ได้ขึ้น ม.3 พร้อมกับนายขวัญแต่อยู่คนละห้องกันและช่วงวันเกิดเหตุเป็นวันสอบเรียนวันสุดท้ายซึ่งมีสอบทั้งหมด 8 วิชา ตอนนั้นสอบไปแล้ว 5 วิชา คุณครูก็ได้ปล่อยให้ไปพักเที่ยงกินข้าวก่อนและขึ้นมาสอบวิชาที่ 6 ช่วงบ่ายโมง ช่วงจังหวะที่ตนกำลังรอเพื่อนอยู่หน้าห้อง นายขวัญก็เดินตามหลังมาแล้วก็เดินผ่านตนไปซึ่งช่วงจังหวะเดินผ่านต่างคนต่างมองหน้ากัน นายขวัญจึงได้ถามตนว่า มองหน้าทำไม ตนจึงได้ตอบกลับไปว่า ทำไมมองหน้าไม่ได้ นายขวัญจึงได้ท้าต่อยให้ลงไปต่อยกันข้างล่าง ตนก็บอกนายขวัญกลับไป มาต่อยกันจะได้จบๆ นายขวัญจึงตอบกลับมาว่า ไม่เอาค่อยเคลียร์กันตอนเย็น จากนั้นเมื่อถึงเวลาสอบนายขวัญและเพื่อนอีก 4-5 คน ก็รออยู่ทางขึ้นบันไดอยู่ระหว่างชั้น 2 ส่วนตนก็ได้เดินมากับเพื่อนอีก 2 คน เป็น 3 คน จากนั้นพอตนขึ้นบันไดก็เจอนายขวัญจากนั้นก็พุ่งมาแทงตนทันทีก่อนจะเกิดการชุลมุนกันขึ้น หลังโดนแทงเลือดก็เต็มเสื้อนักเรียนและตนก็รีบวิ่งไปที่ห้องพยาบาล ส่วนนายขวัญก็ปีนกำแพงออกจากโรงเรียนไปเลย
ทางด้าน นางสาวลมัย อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวของนายวรากร เผยว่า หลังเกิดเหตุจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปคุยกับทางคู่กรณีดูก่อน ถ้าคู่กรณีไม่ยอมมาคุยก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้และล่าสุดก็ได้มีการคุยกับทางพ่อแม่คู่กรณี แต่ทางคู่กรณีบอกว่า ถ้าจะให้รับผิดชอบให้ฝั่งตนไปเอาใบรับรองแพทย์มาเดี๋ยวจะจัดการให้ ซึ่งใบรับรองแพทย์ก็อยู่ที่ตำรวจหมดแล้วทั้งเอกสารต่างๆของโรงพยาบาล แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีการเรียกคู่กรณีให้มารับผิดชอบแต่อย่างใด จนถึงตอนนี้ทางคู่กรณีก็ปัดความรับผิดชอบไปเลย จึงอยากขอร้องสื่อให้ช่วยเป็นสื่อกลางติดตามคดีและขอความเป็นธรรมด้วย