สหรัฐหั่นดอกเบี้ย ดันทองขึ้นต่อ 150 บาท ลุ้นวิ่งทำนิวไฮ 43,000

สหรัฐหั่นดอกเบี้ยดันทองขึ้นต่อ 150 บาท ลุ้นวิ่งทำนิวไฮ 43,000เมื่อวันที่ 20 กันยายน นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (วายแอลจี) เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคํา ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ โดยราคาทองคํายังถูกสนับสนุนจากทิศทางการปรับตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50% ขณะที่แม้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงอัตราดอกเบียทีระดับ 0.25% ตามคาดการณ์ของหลายฝ่าย อีกทั้งเอกสารผลการประชุมยังชี้ถึงการรับรู้เกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจญี่ปุ่น ภายหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ด้วยก่อนการเปิดเผยผลการประชุมดังกล่าว ญี่ปุ่นได้เผยข้อมูลด้านเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งปรับตัวขึ้นด้วยอัตราสูงสุดในรอบ 10 เดือน ประกอบกับความคาดหวังสัญญาณยืนยันต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นของบีโอเจ ทำให้เงินเยนปรับตัวแข็งค่าขึ้น เพิ่มแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ ราคาทองคําจึงมีแรงหนุนมากขึ้นตามไปด้วย

นางพวรรณ์กล่าวว่า ภาพการลงทุนในระยะถัดไป ทองคำยังสามารถเปิดสถานะซื้อทำกำไรระยะสั้นได้ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับโซน2,568-2,547 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ก่อนรอทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไรทิ้ง หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 2,600เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศไทย แม้ได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน แต่หากบาทไม่แข็งค่าเกิน 33.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มองว่าเป็นจุดรับ เพราะราคาทองคำมีโอกาสที่จะไปถึง 41,800 บาทต่อบาททองคำ และเป้าหมายถัดไปที่โซน 42,600-43,000 บาทต่อบาททองคำ หลังจากราคาทองคำเคยขึ้นไปทำราคาสูงสุดแล้วที่ระดับ 42,000 บาทต่อบาททองคำ เมื่อเดือนเมษายน 2567

ทั้งนี้ ราคาทองคำ ณ วันที่ 20 กันยายน 2567 ทองแท่ง รับซื้อ 40,650 บาท ขายออก 40,750 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 39,916.28 บาท ขายออก 41,250 บาท โกลด์สปอต หรือราคาทองคำโลก อยู่ที่ 2,600 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ค่าเงินบาท อยู่ที่ 33.03 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มีการปรับเปลี่ยนราคา 4 ครั้ง รวมปรับเพิ่มขึ้น 150 บาท