ผู้เชี่ยวชาญเผย คนอายุยืน มี 3 นิสัยที่ชอบทำยามเช้า ง่ายๆไม่ต้องออกกำลังกาย

จาก Blue Zones หรือ เขตสีฟ้า หมายถึง 5 พื้นที่ในโลกที่มีประชากรอายุยืนและสุขภาพดีที่สุด ได้แก่ อิคาเรีย ประเทศกรีซ, โลมา ลินดา ประเทศสหรัฐอเมริกา, ซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี, โอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น และนิโคยา ประเทศคอสตาริกา

จากการศึกษาและสำรวจโดย แดน บิวต์เนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุยืน พบว่า มี 3 นิสัยในตอนเช้าซึ่งช่วยให้ผู้คนในพื้นที่เหล่านี้มีอายุยืนถึงร้อยปี และที่น่าสนใจคือ พวกเขาไม่ได้ออกกำลังกายตอนเช้าเลย

คำว่า อิคิไก (Ikigai) มาจากภาษาญี่ปุ่น โดย Iki หมายถึง การมีชีวิตอยู่ และ Gai หมายถึง เหตุผล รวมกันแล้วแปลว่า เหตุผลของการมีชีวิต

แนวทางนี้พบได้ทั่วไปในโอกินาว่า หมู่เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับสมญานามว่า “ดินแดนแห่งผู้เป็นอมตะ” เพราะเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนอายุยืนและมีอัตราการมีอายุเกิน 100 ปีสูงที่สุดในโลก ชาวโอกินาว่าเป็นหนึ่งในชุมชนที่มีความสุขและอายุยืนที่สุดในโลก

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

ในการศึกษาปี 2008 โดยมหาวิทยาลัยโทโฮคุ นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมกว่า 50,000 คน อายุระหว่าง 40 ถึง 79 ปี พบว่าผู้ที่มี อิคิไก ในชีวิต มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดย 95% ของผู้ที่มี อิคิไก ยังมีชีวิตอยู่หลังจาก 7 ปีของการสำรวจ เทียบกับเพียง 83% ของผู้ที่ไม่มี อิคิไก

แม้ว่าการศึกษาเดียวจะไม่สามารถยืนยันได้ว่า อิคิไก เป็นปัจจัยหลักของการมีอายุยืน แต่ผลลัพธ์ชี้ให้เห็นว่า การมีเป้าหมายในชีวิตสามารถส่งเสริมความสุขและความสมบูรณ์ในชีวิตได้ ในโอกินาว่า แนวคิดเรื่องการเกษียณอายุแทบไม่มีอยู่เลย พวกเขายังคงใช้ชีวิตตาม อิคิไก หรือ “เหตุผลที่ทำให้ตื่นขึ้นในทุกเช้า” ตามที่ แดน บิวต์เนอร์ กล่าว

เขายกตัวอย่าง อิคิไก ของชาวโอกินาว่าหลายคน เช่น ชาวประมงวัย 101 ปี ที่ยังออกไปจับปลาให้ครอบครัว 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หญิงวัย 102 ปี ที่เพลิดเพลินกับการดูแลหลานตัวน้อยซึ่งเธอบอกว่าเหมือนอยู่ในสวรรค์ หรือปรมาจารย์คาราเต้วัย 102 ปี ที่ยังคงสอนศิลปะการต่อสู้อย่างตั้งใจ

เมื่อรวมกัน แนวทางชีวิตเหล่านี้สะท้อนให้เห็นแก่นแท้ของ อิคิไก นั่นคือ การมีเป้าหมาย ความหมาย และแรงผลักดันในชีวิต

การเริ่มต้นวันด้วยมื้อเช้าที่ดีต่อสุขภาพเป็นหนึ่งในนิสัยของผู้ที่มีอายุยืนยาว แดน บิวต์เนอร์ เล่าว่า หญิงวัย 105 ปีจาก โลมา ลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีเคล็ดลับอายุยืนคือการเริ่มวันด้วยข้าวโอ๊ต 1 ชาม เสริมด้วยอินทผลัม วอลนัท และนมถั่วเหลืองที่อุดมด้วยโปรตีน แล้วจบด้วยน้ำผลไม้สดหนึ่งแก้ว แม้แต่ละ เขตสีฟ้า จะมีรูปแบบการกินที่แตกต่างกัน แต่ทุกพื้นที่ให้ความสำคัญกับการเน้นแคลอรีในมื้อเช้า โดยเน้นสมดุลของสารอาหารจากผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชเต็มเมล็ด ไขมันดี และโปรตีนจากพืช

ตัวอย่างเช่น คนในนิโคยา ประเทศคอสตาริกา มักเริ่มวันด้วยเมนูที่มีถั่วซึ่งอุดมด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ ส่วนในโอกินาวา ญี่ปุ่น มื้อเช้ามักประกอบด้วยซุปมิโสะ ข้าว และอาหารที่มีโปรตีน เช่น ไข่ ปลาแซลมอน หรือเต้าหู้ พร้อมด้วยคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปังปิ้งหรือโจ๊ก และนมเสริมสารอาหาร

ชาวอิคาเรียและชาวซาร์ดิเนียให้ความสำคัญกับมื้อเช้าเป็นหนึ่งในมื้อที่สำคัญที่สุดในวัน สำหรับชาวอิคาเรีย โภชนาการของพวกเขายึดตามหลักอาหารเมดิเตอร์เรเนียน โดยเน้นการบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์รวมถึงอาหารแปรรูป

ส่วนในซาร์ดิเนีย เนื้อสัตว์กลับเป็นส่วนสำคัญของมื้ออาหาร โดยเฉพาะเนื้อแกะและเนื้อวัวที่ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อ สำหรับชาวโลมา ลินดา มื้อเช้าของพวกเขาอาจเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่โจ๊กไปจนถึงเต้าหู้ โดยหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์

แดน บิวต์เนอร์ พบว่า ชาวเขตสีฟ้ามักดื่มกาแฟในช่วงเช้า บางคนดื่มถึง 2-3 แก้วต่อวัน อย่างไรก็ตาม หากต้องการนำพฤติกรรมนี้มาใช้ ควรเลือกกาแฟดำหรือเติมเพียงนมเล็กน้อยหรือน้ำตาล 1 ช้อนชา ตามรายงานของสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐฯ การดื่มกาแฟเป็นประจำสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร งานวิจัยที่วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้คนเกือบ 450,000 คนซึ่งเผยแพร่ใน European Journal of Preventive Cardiology

พบว่าการดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้วช่วยเพิ่มอายุขัยและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ แม้กาแฟจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากคาเฟอีนอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ใจสั่น คลื่นไส้ อารมณ์แปรปรวน แน่นท้อง หรืออาหารไม่ย่อย