เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 25 พ.ย.2567 พ.ต.ท.ประสิทธิ์ เมฆษา สว.(สอบสวน) สภ. เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ในซอยเทศบาลบางปู 2/2 หลังฟาร์มจรเข้ ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รองผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเช่าชั้นเดียว ไม่มีเลขที่ ปลูกติดถนนไม่มีรั้วกั้น บริเวณเพลิงพักข้างบ้าน พบผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย โดยศพแรกชื่อนายวาสนา อายุ 45 ปี สภาพศพอยู่ในลักษณะนั่งคร่อมอยู่กับม้าหินอ่อน มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนเข้าที่ ท้อง 1 นัด หน้าอก 1 นัด หลัง 2 นัด ใกล้กันบริเวณพื้น พบศพนางรัตตาภัค อายุ 43 ปี ภรรยาของนายวาสนา สภาพนอนคว่ำหน้า ถูกยิงเข้าที่ต้นขาขวาทะลุขาซ้าย 1 นัด ต้นขาซ้าย 1 นัด แขนขวา 1นัด บริเวณหน้าอก 2 นัด
ห่างไปประมาณ 5 เมตร บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวพบศพนางทองศิริ อายุ 69 ปี แม่ของนางรัตตาภัค สภาพนอนหงาย มีแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณหลัง 2 นัด หน้าอก 2 นัด และยังมี ด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 7 ขวบ ลูกสาวของนางรัตตาภัค มีบาดแผลถูกปืนยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด หลัง 1 นัด และบริเวณแขน 1 นัด อาการสาหัส ถูกนำตัวไปรักษาที่ รพ.สมุทรปราการ
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายพิศิษฐ์ หรือ หนุ่ย อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเช่าของผู้ตาย หลังก่อเหตุใช้ปืนออโตเมติกยี่ห้อซิก ขนาด 9 มม.ซึ่งพบตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จ่อยิงที่ศีรษะของตนเอง จนบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนนำตัวไปรักษาที่ รพ.สมุทรปราการ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตรวจสอบโดยรอบที่เกิดเหตุยังพบแม็กกาซีนซึ่งถูกยิงจนหมดแล้วตกที่พื้น 1 อัน ส่วนแม็กกาซีนที่บรรจุในปืน ยังพบกระสุนบรรจุอยู่อีก 4 นัด และที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 13 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบถามนายนายศุภเสกช์ อายุ 19 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้แม่เคยไปกู้ยืมเงินกับนายหนุ่ย ผู้ก่อเหตุแต่ไม่ทราบจำนวน เพื่อมาจุนเจือครอบครัว หลังจากยืมมาตนเองเคยเห็นนายหนุ่ย มาทวงอยู่บ่อยครั้ง จนคยมีปากเสียงกับคนในครอบครัว
ถึงขั้นเอยปากว่าถ้าไม่ได้จะยิงทิ้ง จนวันนี้พ่อกับแม่ นั่งกินข้าวอยู่เพลิงพักข้างบ้าน ส่วนน้องและยายอยู่ในบ้าน ตนเองจึงออกไปเล่นกับเพื่อน แต่ไปไม่ถึง 1 ชั้วโมง ได้รับข่าวร้ายว่าครอบครัวถูกยิง จึงรีบกลับมาที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุตนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องทวงหนี้ ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน
ส่วนทางด้านนายไพบูลย์ พินเที่ยง กำนันตำบลท้ายบ้าน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่นานหลายปีแล้ว มีอาชีพปล่อยเงินกู้และให้เช่าบ้าน ปกตินายหนุ่ย เป็นคนนิสัยดีไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร ลึกๆแล้วตนเองก็ไม่ทราบว่าทั้งสองฝ่ายมีเรื่องอะไรกัน ก่อนเกิดเหตุ ช่วงประมาณ 4 โมงเย็นนายหนุ่ย ยังขี่รถจักรยานยนต์ไปดื่มเหล้าที่บ้านตน และคุยกันตามปกติ ก่อนที่ช่วงประมาณ 19.00 น.นายหนุ่ยได้ขอตัวกลับบ้าน จนมาก่อเหตุสลด
ลูกชายวัย 19 เล่านาทีสลด ปมบุกทวงเงินกู้ สังเวย 4 ศพ มือลั่นไกบุกยิงกลางวงกินข้าว
ลูกชายวัย 19 เล่านาทีสลด ปมบุกทวงเงินกู้ สังเวย 4 ศพ มือลั่นไกบุกยิงกลางวงกินข้าว
ขณะที่พยานแวดล้อมระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันเสียงดัง ไม่นานก็ได้ยินเสียปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด จึงออกมาดู พบนายหนุ่ยกำลัง ใช้ปืนจอศีรษะของตัวเองกก่อนที่จะลั่นไก ขณะนั้นตนเองเห็นน้องแก้มบุ๋ม เดินออกมาจากบ้าน บอกว่าเจ็บหลังตนเองไปดูพบว่าน้องถูกยิง จึงบอกให้น้องนอนลง และรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
ส่วนด.ญ.เอ (นามสมมติ) ใหข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุนายหนุ่ยมาทวงเงินกับแม่ที่บ้าน ก่อนที่จะทะเลาะกัน แม่จึงพาตนเข้าไปในบ้านก่อนที่จะเดินออกมา กระทั่งนายหนุ่ยใช้ปืนยิงแม่ของตนและพ่อ ตนและยายได้ยินเสียงปืน จึงเดินออกมาดู ก่อนที่นายหนุ่ยจะหันกระบอกปืนมายิงใส่ตนและยาย
พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าว่า เบื้องต้นปมเหตุน่ามาจากเรื่องเงินกู้ ที่ผู้ตายไปยืมมาจากนายหนุ่ย เนื่องจากสอบพยานไป 2 ปาก ให้การตรงกันว่าเป็นเรื่องกู้เงิน เนื่องจากนายหนุ่ยเคยมาทวงและมีปากเสียงกันมาก่อนหน้านี้
แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่น และสาเหตุที่คับแค้นยิงทั้งครอบครัวเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนเพื่อหาสาเหตุต่อไป ตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ก่อหตุนั้นพบว่าเป็นของนายหนุ่ยเอง และเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมไม่พบว่านายหนุ่ยเคยถูกต้องโทษคดีอาญา