เพิ่งจะรู้ “กลิ่นคนไทย” ในมุมมองของคนต่างชาติ คือแบบนี้เหรอ

เพิ่งจะรู้ "กลิ่นคนไทย" ในมุมมองของคนต่างชาติ คือแบบนี้เหรอ

“กลิ่นคนไทย” ในมุมมองคนต่างชาติ คือ แบบนี้หรอกเหรอ สรุปแล้วว่าดีหรือไม่ดี หาคำตอบได้ที่นี่

เคยไหมเวลาเรายื่นใกล้คนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นแขก อาหรับ หรือฝรั่ง เรามักจะได้กลิ่นเหมือนเครื่องเทศ น้ำหอม นม เนย หรือชีส แบบจางๆ แต่ในทางกลับกันเราเคยมองมุมกลับ กลับมุมมองไหมว่า “กลิ่นคนไทย” ในมุมมองคนต่างชาติเป็นอย่างไรบ้าง

งานวิจัยจาก A strong association between human earwax-type and axillary odor (Journal of Investigative Dermatology) เปิดเผยว่า คนไทย และเอเชีย มีกลิ่นเต่าที่เหม็นน้อยกว่าฝรั่ง และคนแอฟริกัน โดยนักพันธุศาสตร์ค้นพบยีนตัวหนึ่งที่ชื่อว่า ABCC11 ซึ่งเป็นตัวกำหนดลักษณะของ “ขี้หู” และ “กลิ่นรักแร้”

  • คนยุโรป/แอฟริกัน: ส่วนใหญ่เป็นยีนแบบขี้หูเปียก (Wet Earwax) ซึ่งมาพร้อมกับต่อมเหงื่อ Apocrine ที่ผลิตสารอาหารให้แบคทีเรียได้ดีมาก = กลิ่นตัวแรง
  • คนเอเชียตะวันออก (รวมถึงไทย): ส่วนใหญ่มีการกลายพันธุ์ของยีนนี้ ทำให้มีขี้หูแห้ง (Dry Earwax) และต่อมเหงื่อผลิตสารโปรตีนน้อยกว่า = แบคทีเรียไม่มีอาหาร = กลิ่นตัวธรรมชาติน้อยมาก

    กลิ่น “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” คือ Signature ของไทย

    สิ่งที่ชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะคนจีนและญี่ปุ่น) จำแม่นที่สุดเกี่ยวกับคนไทยคือ “กลิ่นความสะอาดแบบสังเคราะห์”

    ด้วยอากาศที่ร้อนระอุคนไทยมีวัฒนธรรม “อาบน้ำวันละ 2 รอบ” เป็นขั้นต่ำ และเรานิยมใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นดอกไม้แรงๆ รวมถึงแป้งเย็น ทำให้ในสายตาฝรั่งที่อาจจะไม่อาบน้ำทุกวันในฤดูหนาว หรือใส่เสื้อโค้ทซ้ำๆ มองว่าคนไทย “ตัวหอมฟุ้งเหมือนเดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ตลอดเวลา”

    สรุป

    • กลิ่นคนไทย ในมุมมองของตนต่างชาติ คือ กลิ่นสะอาด สะอาดจากการอาบน้ำ และการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มนั่นเอง