เกิดเหตุการณ์ที่กำลังถูกพูดถึงในจีน เมื่อหญิงรายหนึ่งนามสกุล “จาง” ชาวมณฑลหูหนาน ต้องเข้ารับการรักษาอีกครั้ง หลังจากดื่มน้ำมะนาวแทนน้ำเปล่าทุกวันติดต่อกันนาน 3 เดือน จนสุดท้ายกลายเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลุงภารโรงอยู่ห้องเช่าถูกๆ แต่เบื้องลึกสุดพีก ยิ่งกว่าสายลับ
จระเข้ลากหญิงไม่มีทางสู้ลงแม่น้ำ เพื่อนบ้านเห็นแต่ช่วยไม่ได้
ต้นเรื่องเริ่มเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จางมีอาการไอ อ่อนเพลีย และเจ็บหน้าอก เมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์พบว่าเธอเป็น มะเร็งปอดระยะเริ่มต้น แต่สามารถรักษาได้ทันด้วยการผ่าตัด ทำให้เธอฟื้นตัวกลับมามีสุขภาพดีในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม จางยังคงกังวลว่าโรคมะเร็งจะกลับมาอีก จึงเริ่มหาวิธีป้องกันด้วยตนเอง จนไปเจอข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่ระบุว่า “น้ำมะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยป้องกันมะเร็งได้” เธอจึงตัดสินใจดื่มน้ำมะนาวทุกวันแทนน้ำเปล่า โดยเชื่อว่าจะช่วย “ทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลืออยู่ในร่างกาย”
แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม หลังจากดื่มต่อเนื่อง 3 เดือน จางเริ่มมีอาการปวดแสบร้อนที่ท้องและแน่นหน้าอก เมื่อไปพบแพทย์อีกครั้งจึงพบว่าเธอเป็น แผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งเกิดจากการบริโภคน้ำมะนาวในปริมาณมากและเป็นเวลานาน
ดร.เฉิน ไน่เจี๋ย แพทย์จากโรงพยาบาลมะเร็งฝูเจี้ยน อธิบายว่า มะนาวมีสารที่มีประโยชน์หลายชนิด เช่น วิตามินซี ฟลาโวนอยด์ และคูมาริน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจริง แต่ผลการศึกษาส่วนใหญ่เกิดขึ้นในห้องทดลองหรือในสัตว์เท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันได้ว่ามะนาวสามารถป้องกันหรือรักษามะเร็งในมนุษย์ได้โดยตรง
“มะนาวเป็นเพียงผลไม้ทั่วไป ไม่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคมะเร็งหรือทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างสมบูรณ์” ดร.เฉินกล่าว พร้อมเสริมว่า น้ำมะนาวมีสภาพเป็นกรดสูงจากกรดซิตริก ซึ่งหากดื่มทุกวันจะทำให้กรดในกระเพาะเพิ่มขึ้นจนเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
แพทย์ยังแนะนำเพิ่มเติมว่า แม้น้ำมะนาวจะมีประโยชน์ต่อร่างกายในบางด้าน เช่น ช่วยย่อยอาหารหรือให้วิตามินซี แต่ไม่ควรดื่มเข้มข้นหรือใช้แทนน้ำเปล่า และไม่ควรใช้เป็นวิธีรักษาโรคใด ๆ โดยเฉพาะโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อป้องกันโรคได้อย่างปลอดภัยที่สุด
ข้อมูลจาก Soha
