โลกเหลือแค่ 2 ตัว!!! เปิดภาพ “สัตว์หายาก” ชะตากรรมสะเทือนใจ กำลังจะหายไปตลอดกาล?

ชะตากรรมสะเทือนใจ! ทั่วโลกเหลือ “แรดขาวเหนือ” แค่ 2 ตัวสุดท้าย นักวิทยาศาสตร์เร่งกู้ชีวิตก่อนสูญพันธุ์ถาวร

โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ แรดยักษ์ผู้เคยครองแอฟริกา สู่จุดจบของสายพันธุ์? เมื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่หายากที่สุดชนิดหนึ่งของโลกอย่าง แรดขาวเหนือ (Northern White Rhinoceros – Ceratotherium simum cottoni) กำลังจะสูญพันธุ์อย่างถาวร เหลือเพียง 2 ตัวสุดท้าย เท่านั้นบนโลก และทั้งสองต่างก็ไม่สามารถสืบพันธุ์ได้เอง

ในอดีต แรดขาวเหนือเคยพบได้ทั่วไปในหลายพื้นที่ของแอฟริกาเหนือและตะวันออก แต่จากการล่าเพื่อเอานอไปขายในตลาดมืด รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งและสงครามในทวีป ทำให้จำนวนของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งปี 2018 ตัวผู้ตัวสุดท้ายเสียชีวิตจากอายุที่มาก ส่งผลให้สายพันธุ์นี้ไม่สามารถสืบพันธุ์ตามธรรมชาติได้อีกต่อไป

ปัจจุบัน แรดขาวเหนือเพียงสองตัวสุดท้ายคือ “Najin” (เกิดปี 1989) และลูกสาวของเธอ “Fatu” (เกิดปี 2000) อาศัยอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดที่เขตอนุรักษ์ Ol Pejeta Conservancy ประเทศเคนยา แต่ทั้งคู่ไม่สามารถตั้งท้องได้แล้ว  Najin มีปัญหาด้านข้อต่อและสุขภาพกระดูก ส่วน Fatu มีภาวะเสื่อมของมดลูก ทำให้ความหวังในการฟื้นฟูสายพันธุ์ตามธรรมชาติแทบเป็นศูนย์

เทคโนโลยีชีวภาพอาจเป็นคำตอบสุดท้าย

แม้จะไม่มีทางตั้งท้องเอง แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคงไม่ยอมแพ้ โดยหันไปใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการช่วยชีวิตสายพันธุ์นี้ ทีมวิจัยจาก San Diego Zoo Wildlife Alliance ประเทศสหรัฐฯ ได้ทำการศึกษาเซลล์ผิวหนังของแรดขาวเหนือ 12 ตัวที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งถูกเก็บรักษาในโครงการ Frozen Zoo หรือ “สวนสัตว์แช่แข็ง” ที่รวมพันธุกรรมของสัตว์มากกว่า 1,000 สายพันธุ์

นักวิทยาศาสตร์ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนเซลล์ผิวหนังเหล่านั้นให้กลายเป็นเซลล์ไข่และอสุจิ แล้วสร้างตัวอ่อนก่อนนำไปฝังในแรดขาวใต้ (Southern White Rhino) ซึ่งมีความใกล้เคียงทางพันธุกรรม เพื่อทำหน้าที่เป็นแม่อุ้มบุญ แบบจำลองของทีมวิจัยชี้ว่า หากโครงการนี้สำเร็จและสามารถผสมพันธุ์ได้ต่อเนื่องถึง 10 รุ่น แรดขาวเหนือรุ่นใหม่จะมีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูง และฟื้นประชากรได้โดยไม่เกิดภาวะเลือดชิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการรอดชีวิตของสายพันธุ์ในระยะยาว

นักวิจัย Aryn Wilder กล่าวว่า “การมีแหล่งพันธุกรรมที่มั่นคงจาก Frozen Zoo ช่วยให้เราสร้างประชากรใหม่ที่แข็งแรงและสามารถกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อีกครั้ง”

อย่างไรก็ตาม เส้นทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยความท้าทาย ความหวังยังต้องพึ่งพาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง เพราะการเปลี่ยนเซลล์ผิวหนังให้กลายเป็นเซลล์สืบพันธุ์ยังอยู่ระหว่างการทดลอง อีกทั้งยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า แรดขาวใต้จะสามารถอุ้มท้องลูกแรดขาวเหนือได้สำเร็จหรือไม่ แม้จะฝังตัวอ่อนสำเร็จ กระบวนการตั้งครรภ์ก็ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และหากลูกแรดเกิดมาแข็งแรง ก็ยังต้องใช้เวลานานนับสิบปีในการสร้างประชากรแรดขาวเหนือให้เพียงพอในธรรมชาติ

อีกหนึ่งความหวังคือการใช้เทคโนโลยี “โคลนนิ่ง” จากเซลล์ที่ถูกจัดเก็บไว้ เพื่อสร้างสำเนาทางพันธุกรรมของแรดที่เคยมีชีวิตอยู่ เทคนิคนี้อาจกลายเป็นกุญแจสำคัญในการคืนชีวิตให้กับสัตว์สูญพันธุ์ในอนาคต

ทำไมแรดขาวเหนือถึงสำคัญขนาดนี้?

แรดขาวเหนือเป็นหนึ่งในสัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก รองจากช้าง โดยมีน้ำหนักได้ถึง 2,300 กิโลกรัม และลำตัวยาวกว่า 4 เมตร พวกมันมีนอ 2 ข้าง โดยนอหน้าสามารถยาวถึง 1.5 เมตร ซึ่งเป็นทั้งเครื่องมือป้องกันตัวและเป็นเป้าหมายหลักของการล่าในอดีต โดยเฉลี่ย แรดขาวเหนือมีอายุขัย 35–40 ปีในธรรมชาติ และอาจอยู่ได้นานถึง 45 ปีเมื่ออยู่ในกรงเลี้ยงที่มีการดูแลสุขภาพอย่างดี

แม้จะเหลือเพียง 2 ชีวิตสุดท้าย แต่ด้วยความพยายามจากทั่วโลกและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความหวังยังคงอยู่ว่า วันหนึ่งแรดขาวเหนือจะได้กลับมาเดินบนผืนดินแอฟริกาอีกครั้ง ไม่ใช่ในภาพถ่าย หรือแค่ในความทรงจำ  แรดขาวเหนือ…ยังไม่ถึงจุดจบ หากโลกยังไม่ละความพยายาม