สาวเก็บเปลือกหอยลายสวยบนชายหาด หารู้ไม่เฉียดตายไปนิดเดียว มันคือมัจจุราชเงียบแห่งท้องทะเล พิษร้ายไม่มียาแก้
หญิงสาวชาวอเมริกันชื่อ เบคกี้ลี (Beckylee) เล่าเหตุการณ์ระทึกผ่าน TikTok @beckyleeinoki ว่าเธอและสามีกำลังเดินเล่นริมชายหาดในจังหวัดโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น ขณะน้ำทะเลลดระดับลง ทำให้สัตว์ทะเลหลายชนิด เช่น ปู ปลา และปลิงทะเล ติดค้างอยู่ตามแนวชายฝั่ง
ระหว่างนั้น เธอบังเอิญพบ เปลือกหอยลายสวย สะดุดตา จึงหยิบขึ้นมาดู เนื่องจากเธอมีงานอดิเรกคือสะสมเปลือกหอย และลวดลายของหอยชิ้นนี้ก็ตรงกับสไตล์ที่เธอชอบพอดี
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เบคกี้พบว่า ด้านในเปลือกยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่และกำลังเคลื่อนไหว จึงรีบวางกลับลงในน้ำ ก่อนจะกลับไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม ก็พบความจริงสุดช็อกว่า หอยตัวนี้คือ “หอยเต้าปูน” (Cone Snail) สัตว์มีพิษร้ายแรงชนิดหนึ่งของโลก!
เบคกี้อธิบายว่า ในคลิปที่เธอถ่ายไว้ จะเห็นว่าในเปลือกหอยมีท่อเล็ก ๆ สีดำขาวยื่นออกมา นั่นคือ “งวงพิษ (proboscis)” ซึ่งหอยเต้าปูนใช้แทงเหยื่อแล้วปล่อยพิษเข้าไป
พิษของหอยเต้าปูนสามารถทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต และในบางกรณีถึงขั้น เสียชีวิตภายในไม่กี่ชั่วโมง เพราะไม่มีเซรุ่มรักษาโดยเฉพาะ ต้องรักษาตามอาการเท่านั้น
เบคกี้กล่าวว่า หลังรู้ว่าเกือบถูกหอยพิษแทง เธอเครียดและกังวลต่อเนื่องอยู่หลายวัน แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
คลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลทันที มีผู้ชมกว่า 25 ล้านครั้ง หลายคนตกใจและคอมเมนต์ว่า
-
“ต่อไปไม่กล้าเก็บเปลือกหอยแล้ว”
-
“ของสวยในธรรมชาติ อย่าไว้ใจ”
-
“หอยเต้าปูนคือหนึ่งในสัตว์อันตรายที่สุดในโลก หวังว่าคุณจะปลอดภัยนะ”
รู้จัก หอยเต้าปูน
หอยเต้าปูน (ชื่อสามัญ: Cone snail หรือ Cone shell) เป็นหอยทรงกรวยคล้ายถ้วยไอศกรีมหรือหัวลูกข่าง มีเปลือกแข็งลวดลายสวยงาม เป็นหอยทะเลฝาเดียว จัดอยู่ในไฟลัม Mollusca ชั้น Gastropoda วงศ์ Conidae สกุล Conus
ทั่วโลกมีหอยเต้าปูนราว 500 ชนิด ส่วนใหญ่พบในเขตร้อน เช่น
-
Conus aulicus – พบจากฮาวายถึงมหาสมุทรอินเดีย
-
Conus geographus (ลายแผนที่) – พบตั้งแต่ฮาวายถึงแอฟริกา
-
Conus textile (ลายผ้า) – พบในทะเลแดงและฮาวาย
-
Conus marmoreus (ลายมุก) – อินโดแปซิฟิกถึงออสเตรเลีย ในประเทศไทย พบตามชายฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เช่น จ.ตราด จันทบุรี และภูเก็ต
- Darioconus thailandis (เต้าปูนไทย) – พบครั้งแรกในน่านน้ำไทย ทะเลอันดามัน
พิษของหอยเต้าปูน
หอยเต้าปูนเป็นสัตว์กินเนื้อ (carnivorous) ส่วนใหญ่จะฝังตัวในทรายเวลากลางวัน และออกล่าเหยื่อเวลากลางคืน โดยใช้ “งวง” (proboscis) พุ่งออกมายิง “เข็มพิษ” เข้าใส่เหยื่อ เช่น ปลาขนาดเล็ก หรือหนอนทะเล แล้วจึงดูดกลืนเหยื่อเข้าไปทั้งตัว
พิษของหอยเต้าปูนสามารถร้ายแรงถึงชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มที่กินปลา (Piscivorous) เช่น หอยลายแผนที่ ที่มีพิษออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้เหยื่อเป็นอัมพาตภายในไม่กี่นาที
พิษของหอยเต้าปูนประกอบด้วยสารหลายกลุ่ม เช่น
-
Alpha-conotoxins: ยับยั้งตัวรับ acetylcholine หยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ
-
Omega-conotoxins: ขัดขวางแคลเซียมในระบบประสาท หยุดสัญญาณไฟฟ้า
-
Mu และ Delta-conotoxins: ยับยั้งโซเดียม หยุดกล้ามเนื้อ
-
Ziconotide: ยาระงับปวดที่มีประสิทธิภาพสูง (มากกว่ามอร์ฟีน 1,000 เท่า)
อาการเมื่อได้รับพิษ
อาการจะแตกต่างตามชนิดของพิษ เช่น
-
เจ็บ บวม ชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง
-
ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
-
หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวภายใน 5 ชั่วโมง
ปัจจุบันมีรายงานผู้เสียชีวิตจากพิษหอยเต้าปูนแล้วกว่า 30 รายทั่วโลก
การปฐมพยาบาลเมื่อถูกหอยเต้าปูนต่อย
-
อย่าผ่าหรือดูดพิษออก
-
ใช้ผ้าก๊อซพันแผลให้แน่นเพื่อชะลอการกระจายของพิษ
-
จุ่มแผลในน้ำอุ่น (~43–45°C) เพื่อลดอาการปวด
-
รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที เพราะยัง ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ
วิธีหลีกเลี่ยงอันตรายจากหอยเต้าปูน
-
อย่าเก็บเปลือกหอยที่ยังมีตัวอยู่ โดยเฉพาะจากชายหาด
-
จับเปลือกหอยทางด้านกว้าง (ป้าน) ไม่จับด้านแหลม
-
สวมถุงมือหนาเมื่อเก็บตัวอย่าง
-
อย่าใส่เปลือกหอยลงกระเป๋าเสื้อผ้า เพราะเข็มพิษสามารถแทงทะลุได้