ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ระเบียบใหม่ศาล คดีที่ไม่มีข้อยุ่งยาก ให้เวลาพิพากษาคดีใน 6 เดือน

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.68 มีรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 142 ตอน 41 ก เผยแพร่ ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์การกำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรม พ.ศ.2568 ลงนามโดยนางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา

สำหรับสาระสำคัญของระเบียบฉบับนี้ระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการกำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรม เพื่อให้การกำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพาพิพากษาคดีมีความเหมาะสมและเป็นเอกภาพ รวมทั้งมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

รวมทั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อวางหลักเกณฑ์ในการกำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรมและการบริหารจัดการคดีเพื่อให้สามารถพิจารณาพิพากษาคดีต่าง ๆแล้วเสร็จภายในเวลาที่เหมาะสมระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่งเป็นการประมาณการเพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคาดการณ์ได้ว่าคดีจะเสร็จสิ้นเมื่อใดและสามารถตรวจสอบความคืบหน้าได้โดยสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

วันเดียวกันนายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ก็ออกประกาศสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่อง กำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรม พ.ศ.2568 ซึ่งสอดคล้องกับระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์การกำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรม พ.ศ.2568 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไปเช่นเดียวกัน

โดยประกาศของสำนักงานศาลยุติธรรมระบุว่า การกำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า โดยไม่กระทบต่อความเป็นอิสระในการอำนวยความยุติธธรรมหรือการดำเนินงานโดยสุจริตของบุคคลใดไม่ว่าทางใด ตามมาตรา4 แห่งพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ.2565

ทั้งนี้ในประมาณการระยะเวลาพิจารณาพิพากษคดีของศาลยุติธรรมในท้ายประกาศ ระบุลักษณะหรือประเภทคดีที่น่าสนใจไว้ดังนี้ เช่น “คดีจัดการพิเศษ” เช่นคดีเพ่ง ที่เป็นคดีมโนสาเร่ คดีที่ไม่มีข้อยุ่งยาก และคดีผู้บริโภค คดีที่เริ่มต้นอย่างคดีไม่มีข้อพิพาท เช่น ร้องจัดการมรดก ร้องขอกรรมสิทธิ์ที่ดิน ไม่ว่าจะมีผู้คัดค้านหรือไม่ก็าม คดีที่จำเลยขาดนัด คดีสาขา เช่นขอกันส่วน ร้องขัดทรัพย์ ขอเฉลี่ยทรัพย์ ขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิ

หรือคดีอาญา เช่นคดีที่จำเลยให้การรับสารภาพ ไม่ว่าจะต้องสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพหรือไม่ก็ตาม กระบวนการพิจารณาชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีสาขา เช่นร้องขอคืนของกลาง ผู้ประกันขอลดค่าปรับ

หรือคดีความผิดทางพินัยที่จำเลยไม่ต่อสู้คดี ทั้งนี้คดีความผิดทางพินัยหมายถึงคดีที่เกิดจากการกระทำหรือการงดเว้นกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งกฎหมายนั้นกำหนดโทษเป็นค่าปรับ (ปรับเป็นพินัย) แทนที่จะเป็นโทษทางอาญา เช่น การจำคุก โดยความผิดทางพินัยมักเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรงและไม่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมอย่างกว้างขวาง

ซึ่งคดีจัดการพิเศษนี้ กำหนดประมาณการระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีและการพิจารณาจัดการคดีภายใน 6 เดือน นับแต่วันรับฟ้องหรือวันรับคำร้องขอหรือวันรับสำนวนสืบพยานประเด็น ภายใน 6 เดือน

นอกจากนี้ยังมีเรื่อง คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวและออกหมายปล่อย รวมถึงคำร้องขอปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และคำร้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ประมาณการระยะเวลาหรือดำเนินการ “ภายในวันที่ได้รับคำร้อง”

ส่วนคำร้องและคำขอต่างๆ ประมาณการระยะเวลาไว้ ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ส่วนกรณีขอรับเงินคืนจากศาล ให้ดำเนินการจ่ายให้ผู้ที่มีสิทธิรับเงินภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง