แอนนี จาคอบเซน นักข่าวสายสืบสวนผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามนิวเคลียร์ และอดีตผู้เข้าชิงรางวัลพูลิตเซอร์จากผลงาน The Pentagon’s Brain เปิดเผยข้อมูลสะเทือนโลกว่า หากเกิดสงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบขึ้นจริง ประชากรโลกถึง 5 พันล้านคนจากทั้งหมด 8 พันล้านอาจเสียชีวิตภายในเวลาเพียง 72 นาทีแรก

จาคอบเซน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ระบุในพอดแคสต์ Diary Of A CEO ว่า มีเพียงสองประเทศที่อาจอยู่รอดในหายนะนิวเคลียร์ ได้แก่ นิวซีแลนด์ และ ออสเตรเลีย โดยอ้างอิงข้อมูลจากศาสตราจารย์ไบรอัน ทูน ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศโลก ซึ่งเชื่อว่าทั้งสองประเทศยังสามารถทำการเกษตรและผลิตอาหารเลี้ยงประชากรได้
เธออธิบายว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก โดยเฉพาะเขตละติจูดกลาง จะถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งเป็นเวลานานถึง 10 ปี “การเกษตรจะล้มเหลว ส่งผลให้เกิดการอดอยากครั้งใหญ่ และประชากรจะล้มตายจำนวนมาก ขณะเดียวกัน รังสีจะปนเปื้อนอย่างรุนแรงจากการที่ชั้นโอโซนถูกทำลาย จนมนุษย์ไม่สามารถอยู่กลางแสงแดดได้อีกต่อไป”
จาคอบเซนยังระบุว่า หากมีการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลจากรัสเซียมายังชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ จะใช้เวลาเพียง 26 นาที 40 วินาที และสำหรับขีปนาวุธจากกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ จะใช้เวลาประมาณ 33 นาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่คงที่มาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น จากการวิเคราะห์ของนักฟิสิกส์นิวเคลียร์ เฮิร์บ ยอร์ก เมื่อปี 1959–1960
สิ่งที่น่าสะพรึงไม่แพ้กัน คือ หากตรวจพบการยิงขีปนาวุธจริง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีเวลาเพียง 6 นาที เท่านั้นในการตัดสินใจตอบโต้ โดยจะต้องอาศัย “Black Book” หรือ “nuclear football” ซึ่งเป็นเอกสารลับที่ระบุชุดคำสั่งตอบโต้และรายชื่อเป้าหมายทั่วโลก
“ช่วงเวลาอันบ้าคลั่งจะเริ่มต้นทันทีที่ระบบตรวจจับขีปนาวุธแสดงสัญญาณ” จาคอบเซนกล่าว พร้อมย้ำว่า “ความจริงก็คือ ในเวลานั้นผู้นำประเทศจะต้องตัดสินใจอนาคตของมนุษยชาติทั้งหมด ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที”
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เธอและผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนยังคงย้ำเตือนถึงความน่ากลัวของอาวุธนิวเคลียร์ และผลลัพธ์ที่อาจไม่สามารถย้อนคืนได้อีกต่อไป.
