
จากกรณี นายอนุวรรตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี เสียชีวิตด้วยอาวุธปืน ภายในรถยนต์สีขาว บริเวณทางด่วนพิเศษศรีรัช เลยด่านเก็บเงินค่าทางด่วนประชาชื่นประมาณ 300 เมตร เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา กระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสงกรานต์ หรือ “กาน เวลไฟร์” ซึ่งหลังเกิดเหตุได้นำรถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2กผ 7778 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ในการก่อเหตุ ไปจอดทิ้งไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ก่อนหลบหนีไป

ล่าสุดวันนี้ (24 ธ.ค.68) มีรายงานว่า “กาน เวลไฟร์” ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมได้แล้วที่ จังหวัดตราด ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวเข้ากรุงเทพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกันช่วงสายของวันนี้ (24 ธ.ค. 68) นายกิตตินันทร์ อายุ 59 ปี และนางสิมมา อายุ 54 ปี พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยพี่ชายและแฟนสาว ได้เตรียมเสื้อผ้าและเอกสาร เดินทางไปติดต่อรับศพที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ หลังการผ่าชันสูตรแล้วเสร็จ กรณีถูกคนขับรถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ กระหน่ำยิงจนเสียชีวิตภายในรถเก๋งอัลติส บนทางด่วนประชาชื่น
โดยนางสิมมา แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนติดตามข่าวและรับรู้ความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอด แต่ยังไม่สามารถทำใจได้ พร้อมยืนยันว่าลูกชายไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ เป็นคนขยันทำงานสุจริต โดยทำอาชีพไรเดอร์ช่วงเวลาประมาณตี 1 ของทุกวัน และมีหน้าที่เพียงไปรับไปส่งแฟนสาวเท่านั้น ไม่เคยนอกลู่นอกทาง เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ

แม่ของผู้เสียชีวิตยังเล่าว่า แม้ลูกชายจะไม่ได้อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็แวะเวียนมาหาอยู่เสมอ และมักซื้อข้าวมาให้ตลอด พร้อมตั้งคำถามด้วยความเจ็บปวดว่า เหตุใดต้องมาฆ่าลูกของตน เพียงแค่ขับรถปาดหน้ากัน ทำไมไม่พูดคุยกันดี ๆ และทำไมต้องใช้อาวุธปืนถึงขั้นเอาชีวิต พร้อมย้ำว่าไม่เข้าใจว่าการกระทำเช่นนี้มีขึ้นเพื่ออะไร และไม่คิดถึงหัวอกของพ่อแม่ผู้สูญเสียเลยหรือไม่
นางสิมมายืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะลูกชายไม่ได้ทำผิดอะไร แต่กลับต้องมาจบชีวิตลง พร้อมภาวนาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้โดยเร็ว เพื่อให้มารับผลจากการกระทำที่ก่อขึ้น พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า หากจับตัวได้ก็ไม่ขอไปพบหน้า เพราะความสูญเสียครั้งนี้รุนแรงเกินจะรับไหว โดยตนมีลูกเพียง 2 คน และลูกชายเพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว

ด้านนายกิตตินันทร์ พ่อของผู้เสียชีวิต ฝากไปถึงผู้ก่อเหตุให้เข้ามอบตัว และต่อสู้กับความจริงตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมระบุว่า ครอบครัวไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ แม้ในอดีตลูกชายจะเคยถูกดำเนินคดี แต่ก็ได้รับโทษตามกฎหมายแล้ว และปัจจุบันกลับตัวกลับใจ ทำงานสุจริต จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องเกิดเหตุรุนแรงเช่นนี้
ขณะที่แฟนสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า แฟนไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุ และไม่ทราบว่ามีเรื่องจำนำของหรือไม่ ส่วนในช่วงเกิดเหตุไม่ได้มีการทะเลาะรุนแรง เพียงเปิดกระจกพูดคุยกันเท่านั้น และไม่แน่ใจว่าผู้ก่อเหตุมีกี่คน
สำหรับผลการชันสูตรศพ ระบุว่า ผู้เสียชีวิตถูกกระสุนปืน 2 นัด นัดแรกเข้าบริเวณลำคอด้านขวา ทะลุออกด้านซ้าย และนัดที่สองเข้าบริเวณต้นแขนขวา ทะลุออกไหล่ขวา โดยสาเหตุการเสียชีวิตมาจาก เส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอฉีกขาดจากกระสุนปืน ทำให้เสียเลือดจำนวนมาก
ทั้งนี้ ครอบครัวจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ วัดราชวรินทร์ ซอยตากสิน 21 กรุงเทพมหานคร ต่อไป
