หญิงตั้งครรภ์ 18 ครั้ง ลูกไม่แท้งก็ตายตั้งแต่แบเบาะ เพิ่งรู้สาเหตุหลังคลอดคนที่ 19

หญิงตั้งครรภ์ 18 ครั้ง เสียลูกไปทั้งหมด บางคนแท้ง บางคนเกิดไม่กี่เดือนก็ตาย เพิ่งรู้สาเหตุของโศกนาฏกรรมหลังคลอดคนที่ 19

ที่เมืองกว่างหยวน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีเรื่องจริงที่สร้างความสะเทือนใจให้กับหลายคน เมื่อหญิงสาวชื่อ หวังอิ๋งหลิน ต้องเผชิญโศกนาฏกรรมยาวนานถึง 20 ปี เธอตั้งครรภ์ 19 ครั้ง แต่กลับสูญเสียลูกไปถึง 18 คน

May be an image of 1 person

โศกนาฏกรรมที่ยืดเยื้อนานสองทศวรรษ

หวังอิ๋งหลิน เป็นหญิงชาวชนบทธรรมดา ๆ ที่แต่งงานกับสามีชื่อ ซุนจื้อเกา ผ่านการคลุมถุงชนเมื่อ 20 ปีก่อน หลังแต่งงานไม่นาน เธอก็ตั้งครรภ์ลูกคนแรก เป็นเด็กผู้หญิง แต่ไม่นานหลังคลอด เด็กมีอาการตัวเหลือง ชักเกร็ง และเสียชีวิตลง ผู้สูงวัยในหมู่บ้านบอกว่าเป็น “ดีซ่านในทารก” ที่จะหายไปเอง แต่สุดท้ายเด็กก็จากไป

แม้จะสูญเสียลูก หวังอิ๋งหลินก็ยังไม่ยอมแพ้ เธอตั้งครรภ์อีกครั้ง แต่ลูกคนที่สองแท้งในเดือนที่ 5 คนที่สามก็มีอาการตัวเหลืองและเสียชีวิตภายใน 1 วัน คู่สามีภรรยาทั้งคู่ทุกข์ใจอย่างยิ่ง พวกเขาพยายามทุกวิถีทาง จากสมุนไพรจีน ไปจนถึงคลอดที่โรงพยาบาลระดับจังหวัด แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม

ลูกชายคนที่ 4 ของเธอเสียชีวิตหลังจากอยู่ได้เพียง 7 เดือน แม้จะเปลี่ยนบ้านใหม่ เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมเพราะความเชื่อ แต่เด็ก ๆ ก็ยังคงจากไปทีละคน

May be an image of 2 people, child and hospital

 

ไม่เพียงแต่สูญเสียลูก ยังต้องแบกหนี้ และรับคำครหา

เพราะการสูญเสียลูกอย่างต่อเนื่อง ครอบครัวต้องเป็นหนี้ และถูกเพื่อนบ้านนินทา สุดท้ายสองสามีภรรยาต้องย้ายออกจากหมู่บ้านไปทำงานรับจ้าง พร้อมตามหาคำตอบ แต่แม้เวลาจะผ่านไปนาน ผลตรวจสุขภาพของทั้งคู่ก็ยังปกติดี

จนกระทั่งภรรยาเสนอขอหย่า หวังให้สามีไปหาผู้หญิงคนใหม่ที่มีโอกาสมีลูกได้ แต่ซุนจื้อเกายืนยันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ เขาบอกว่า “สุขภาพเราทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหา แค่ยังไม่มีโชคเท่านั้นเอง”

 

การตั้งครรภ์ครั้งที่ 19 กับคำตอบที่รอคอย

ในปี 2014 ขณะที่เธออายุเกือบ 40 ปี หวังอิ๋งหลินตั้งครรภ์อีกครั้งเป็นครั้งที่ 19 ครั้งนี้เธอและสามีตัดสินใจไปโรงพยาบาลใหญ่ที่เมืองกว่างหยวนเพื่อติดตามการตั้งครรภ์อย่างใกล้ชิด เมื่อทารกชายคลอดออกมา ก็ถูกนำเข้า ICU ทันที

แต่เพียงข้ามคืน ทารกก็เริ่มมีอาการตัวเหลืองอีก แพทย์รีบตรวจหมู่เลือดของแม่ เด็ก และพ่อ สิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

ผลตรวจเผยสาเหตุที่แท้จริง หวังอิ๋งหลินมีหมู่เลือด Rh ลบ หรือที่เรียกว่า “เลือดแพนด้า” ซึ่งพบได้ยากมาก ส่วนลูกชายของเธอมีหมู่เลือด Rh บวก ซึ่งทำให้เกิดภาวะ เม็ดเลือดแดงแตกในทารกแรกเกิด (Hemolytic disease of the newborn) ร่างกายแม่จะสร้างแอนติบอดีเพื่อต่อต้านเม็ดเลือดของลูกที่มี Rh+ ซึ่งถือเป็นสิ่งแปลกปลอม

แพทย์รีบทำการถ่ายเลือดให้ทารก ทำให้เด็กชายรอดชีวิต และกลายเป็นลูกเพียงคนเดียวในบรรดา 19 คนที่มีชีวิตอยู่ได้

May be a graphic of text that says 'หมู่โลหิต หมู่ ระบบ อาร์อช Rh-negative ความสำคัณของหมูโลหิตพิเศษ หากผู้ที่มีหมู่โลทิต Rh- ต้องรับโลหิตในการรักภาพยาบาลจำเป็ รับโลหิตที่มีหมู่ Rh- ด้วยเหมือนกัน เพื่อป้องกันการกระตุ้นการสร้าง แอนติบอดี ต่อ แอนติเจน ดี ในกรณีฉุกเฉิน ผู้ปบ่วยที่มีโลหิตหมู่ Rh- ที่ยังไม่สร้างแอนติบอดี ต่อ แอนติบอดี สามารถรับโลหิตหมู่ Rh(+)ve ได้ แต่สามารถให้ได้เพียง 1 ครั้ง เพราะการรับโลหิตหมู่ Rh(+)ve อีก ร่างกายจะสร้างแอนติบอดี ทำลายเม็ดโลหิตแดง Rh(+)ve อาจทำให้ ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดังนั้น ก่อนทีจะตั้งครรภ์ มารดาที่มีหมูโลหิต Rh- ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อเตรียมการป้องกัน ไม่ให้เกิดอันตรายทับบุตร AB ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถ.อัวรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 สอบถามโทร. 0 2256 22564300 4300'

บทเรียนราคาแพงจากโศกนาฏกรรมที่ยืดเยื้อ

เรื่องราวอันแสนเจ็บปวดของหวังอิ๋งหลิน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ ความรู้ทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน หากมีการตรวจหมู่เลือดตั้งแต่การตั้งครรภ์ครั้งแรก เด็กอีก 18 คนอาจไม่ต้องตาย

ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกจาก Rh ไม่ตรงกัน สามารถป้องกันได้ง่าย เพียงแม่ที่มีหมู่เลือด Rh- ได้รับการฉีดแอนติบอดีระหว่างและหลังตั้งครรภ์

หวังอิ๋งหลินในฐานะแม่คนหนึ่ง ได้เผชิญความเจ็บปวดที่แทบไม่มีใครทนได้ เรื่องของเธอคือ คำเตือนถึงการละเลยความรู้พื้นฐานด้านสุขภาพ และ การเรียกร้องให้มีการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่ทั่วถึง

เพียง การตรวจเลือดครั้งเดียว ก็อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตได้