ระดมกำลัง ช่วยช้างป่าบาดเจ็บ เพราะทุกชีวิตในผืนป่ามีค่าเสมอ

ภารกิจช่วยเหลือช้างป่าบาดเจ็บกลางผืนป่ากุยบุรี หน่วยงานทุกภาคส่วนระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ-รักษาอย่างเร่งด่วน สะท้อนหัวใจแห่งการดูแลธรรมชาติ เพราะทุกชีวิตในป่าคือคุณค่าที่ต้องปกป้อง โดยทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรี – Kui Buri National Park ได้เผยแพร่ภารกิจช่วยเหลือช้างป่าเพศผู้บาดเจ็บที่ขาซ้าย

ระดมกำลัง ช่วยช้างป่าบาดเจ็บ เพราะทุกชีวิตในผืนป่ามีค่าเสมอ

เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมดูแลช้างป่าบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ด้วยความห่วงใยในทุกชีวิตของผืนป่า

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจากนายสุวรรณ วงค์นรัตน์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ กร.3 ด่านสิงขร ว่าราษฎรพบช้างป่ามีอาการบาดเจ็บที่ขาหลังซ้ายโดยมีอาการบวมหนัก บริเวณอ่างเก็บน้ำโจน หมู่ที่ 12 บ้านน้ำโจน ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปราม ฉก.1, 2 และ 3 และชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ชป.1, 4 และ 5 เข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมใช้อากาศยานไร้คนขับค้นหาช้างป่าเพื่อตรวจสอบอาการ

ระดมกำลัง ช่วยช้างป่าบาดเจ็บ เพราะทุกชีวิตในผืนป่ามีค่าเสมอ

ต่อมา วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 นายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วย

นายสัตวแพทย์อนุรักษ์ สกุลพงษ์ สัตวแพทย์ปฏิบัติการ ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สาขาเพชรบุรี)
ทีมสัตวแพทย์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบ้านอ่าวน้อย
WWF Thailand
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวน้อย
ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง
ผู้นำชุมชน

ระดมกำลัง ช่วยช้างป่าบาดเจ็บ เพราะทุกชีวิตในผืนป่ามีค่าเสมอ

ได้ร่วมลงพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบและให้การรักษาช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บ โดยมีคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในภารกิจสำคัญครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

ระดมกำลัง ช่วยช้างป่าบาดเจ็บ เพราะทุกชีวิตในผืนป่ามีค่าเสมอ

ทีมสัตวแพทย์ได้วางยาซึม ล้างบาดแผล ให้ยาฆ่าเชื้อ ยาบำรุง และสารน้ำผ่านเส้นเลือดดำบริเวณหลังใบหู พร้อมกำชับให้เฝ้าระวังอาการอย่างต่อเนื่อง หัวหน้าอุทยานอุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ฉก.2 และ 3 เฝ้าติดตามสถานการณ์ พร้อมรายงานความคืบหน้าเพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างดีที่สุด