เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พร้อมด้วยนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ฟ้องหมิ่นประมาท ภายหลังเปิดเผยเกี่ยวกับประกันสังคม ซื้ออาคาร Skyy9
น.ส.รักชนก กล่าวว่า วันนี้ครบรอบ 1 เดือน ในการเปิดเรื่องงบประกันสังคม ตนไม่คิดว่าประเด็นดังกล่าวจะมาถึงจุดนี้ ทั้งงบต่างๆ ที่ไม่โปร่งใส ทั้งการที่ประกันสังคมไม่ได้เปิดเผยข้อมูล หรือเมื่อมีคนขอข้อมูลแล้วไม่ส่งให้ จนมาถึงเรื่องตึก Skyy9 แต่พวกตอน 2 คน ก็ได้รับคนละ 1 คดี ถือว่าเราทำสำเร็จในฐานะสส. ที่ออกมาพูดเพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกันตน จนมีคนเด้งรับ ยืนยันว่าเราจะตรวจสอบต่อไปเรื่อยๆ เพราะเรื่องประกันสังคมยังมีอีกหลายเรื่องให้ติดตาม
น.ส.รักชนก กล่าวว่า ส่วนการโดนฟ้อง เราทั้ง 2 คนไม่ได้รู้สึกกังวลร้อนรนอะไร เพราะเรายืนยันว่า สิ่งที่เราพูด เราไม่ได้พูดในฐานะส่วนบุคคลกับใคร แต่เราพูดในฐานะที่ยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของผู้ประกันตน ไม่ว่าใครในประเทศนี้ ก็ยืนยันแทนเราได้ว่าเป็นสิ่งที่สาธารณะได้ประโยชน์ เราวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความสุจริต เป็นการตั้งคำถามว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะไม่รู้เรื่องการลงทุนนี้เลยหรือ และไม่แน่ใจว่าการตั้งคำถามเช่นนี้นำมาสู่การฟ้องร้องได้อย่างไร
เมื่อถามถึงนายสุชาติ ระบุทำเกินหน้าที่ สส. เนื่องจากพูดในที่สาธารณะ นายสหัสวัต กล่าวว่า การทำหน้าที่ สส.ไม่จำเป็นต้องพูดแค่ในสภาฯ ยืนยันว่าเรื่องพวกนี้ต้องถูกตรวจสอบ และถูกพูดถึงได้ เพราะหากเราไม่ออกมาพูด ผู้ประกันตนก็ไม่รู้ มั่นใจว่ามีหลักฐานเพียงพอกับเรื่องที่พูด
น.ส.รักชนก กล่าวเสริมว่า “มันเสียชาติเกิด ถ้าท่าน เป็นสส.แล้วมารอพูดแต่ในสภาฯ หรือตั้งกระทู้ถามอย่างเดียว ซึ่งการตั้งกระทู้ถามไป บางคนก็ไม่เคยมาเลย เช่น นายกรัฐมนตรี ฉะนั้น หน้าที่ของเรา คือพูดทุกที่ทุกเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ และคนที่เลือกเรามา”
ส่วนที่นายสุชาติ ระบุอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเราแน่นอนนั้น น.ส.รักชนก กล่าวว่า ขอตั้งคำถามกับสังคมว่า เรา 2 คน ชัดเจนว่าอยู่ข้างผลประโยชน์ของผู้ประกันตน หากท่านยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเรา คือท่านอยู่ฝั่งใคร
น.ส.รักชนก ย้ำว่า การที่ตนพูดเรื่องนี้ เนื่องจากตนไม่อยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก ถามว่าใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ นี่เป็นผลประโยชน์ของผู้ประกันตนล้วนๆ เพราะการลงทุนในตึกนี้มีปัญหา และมีข้อสงสัยเต็มไปหมด สุดท้ายสังคมก็เห็นตรงกันว่า ไม่คุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากไม่สามารถได้ผลตอบแทนคืนมาอย่างสมน้ำสมเนื้อได้
ส่วนตัวยอมไม่ได้ ซึ่งเราคงไปตรวจสอบไม่ได้ทุกบาททุกสตางค์ แต่เราสามารถนำกรณีตัวอย่างนี้ ออกมาตีแผ่ให้สังคมรับรู้ พร้อมเรียกร้องสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงแผนบริหาร ซึ่งควรเป็นขั้นต่ำในการลงทุน ต้องตอบสังคมให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก
สำหรับกระแสข่าวนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก เป็นผู้ให้ข้อมูลนั้น น.ส.รักชนก ระบุว่า เป็นเพียงการมาให้กำลังใจเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้ให้ข้อมูลเรา
ส่วนจำนวน 50 ล้านบาทที่ถูกฟ้องร้องมากไปหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ยังแพ้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เพราะโดนถึง 100 ล้านบาท
ขณะที่นายสหัสวัต กล่าวเสริมว่า มูลค่าความเสียหาย เป็นสิทธิ์ของผู้ฟ้องร้องที่จะประเมินมูลค่า และเรียกค่าเสียหายจากเรา ขอให้เป็นวิจารณญาณของประชาชนและผู้ประกันตน ว่าดูแล้วคิดอย่างไรกัน