เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ก.ย. 2567 สำนักงานจัดการภัยพิบัติของเวียดนาม ออกมาเปิดเผยข้อมูลความเสียหายที่เกิดจากผลกระทบของซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ยางิ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตที่พบจนถึงตอนนี้อยู่ที่ 59 ศพ และมีผู้สูญหายอีก 22 ราย ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากดินถล่มและน้ำท่วม
ไต้ฝุ่น ยางิ เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่จังหวัดไฮฟอง อันเป็นที่ตั้งของโรงงานมากมายทั้งของเวียดนามและของบริษัทต่างชาติ ก่อนที่มันจะอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชันในวันอาทิตย์ แต่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนในวันจันทร์ว่า มันยังสามารถทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มเพิ่มเติมได้
ผู้จัดการและคนงานภายในนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานในจังหวัดไฮฟอง เปิดเผยในวันจันทร์ว่า พวกเขายังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และพยายามจะเก็บกู้เครื่องมือจากโรงงาน ซึ่งถูกลมพายุซัดจนหลังคาเหล็กปลิวประจาย ท่ามกลางฝนที่ยังตกลงมา
ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส กำแพงโรงงานของบริษัท แอลจี (LG) ของเกาหลีใต้ ในเมืองไฮฟอง พังถล่มลงมา ขณะที่แอลจีออกมายอมรับว่าเกิดความเสียหายขึ้นที่ไซต์การผลิตของพวกเขาในเวียดนาม โรงงานที่เก็บตู้เย็นและเครื่องซักผ้าถูกน้ำท่วม แต่ไม่มีลูกจ้างรายได้ของบริษัทได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้านเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งจังหวัดพูเทอ (Phu Tho) ทางเหนือของเวียดนาม ระบุว่า สะพานเหล้กข้ามแม่น้ำแดง ซึ่งเป็นเส้นทางเดินรถสายหลักของจังหวัดและมักมีการจราจรพลุกพล่าน พังถล่มลงมาในวันจันทร์ โดยรายงานเบื้องต้นชี้ว่ามีรถยนต์และรถบรรทุก 10 คันอยู่บนสะพานตอนเกิดเหตุ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ช่วยผู้ประสบภัยขึ้นจากน้ำได้แล้ว 3 ราย แต่ยังมีผู้สูญหายอีก 13 คน
หน่วยงานด้านสภาพอากาศของเวียดนามเตือนว่า อิทธิพลของพายุดีเปรสชันยางิมีโอกาสทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มเพิ่มอีกขึ้น โดยคาดว่าจะมีฝนตกหนักและลมแรงที่กรุงฮานอยในคืนวันจันทร์
ส่วนบริษัท EVN ผู้ให้บริการพลังงานไฟฟ้าในเวียดนาม ระบุว่า มีลูกค้ากว้า 5.7 ล้านรายเผชิญเหตุไฟดับในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเสาไฟฟ้าหลายสิบต้นหักโค่นเพราะลพายุ โดยพวกเขาฟื้นฟูระบบพลังงานกลับมาได้แล้วเกือบ 75% ในวันจันทร์
นายกรัฐมนตรี ฝั่ม นิญ จิ๊ญ แห่งเวียดนาม เดินทางเยือนจังหวัดไฮฟองเพื่อตรวจสอบความเสียหายในวันจันทร์ และอนุมัติแพ็กเกจช่วยเหลือในการฟื้นฟูเมืองมูลค่า 4.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ