ช้างป่าเอาคืนโหด แก้แค้นรัวยิงดับพลายหนุ่ม พาพวกบุกพังบ้านพินาศโค่นต้นยางระเนระนาด

ช้างป่าเอาคืน พาพวก บุกพังบ้านประชาชนเสียหายทั้งหลัง ซ้ำโค่นต้นยางล้มระเนระนาด หลังเกิดเหตุพลายหนุ่มถูกรัวยิงล้มเพียง 2 วัน

วันที่ 26 ธ.ค.2567 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน เกิดเหตุช้างป่าหลายตัวบุกพากันเข้ามาทำลายพังบ้านเรือนพังเสียหาย และยังโค่นต้นยางล้มลงระเนระนาดในพื้นที่บ้านคลองแดง หมู่ 12 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี นายวันดี ดอกดิน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ชุดติดตามช้าง รีบพากันเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน พากันขนลุกเมื่อพบว่าบ้านไม้ชั้นเดียวมุงหลังคากระเบื้อง ที่ถูกช้างบุกเข้าทำลายเสียหายเกือบทั้งหลังพังถล่มลงมาพังพาบอยู่กับพื้น อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุช้างพลายถูกยิงล้มเมื่อ 2 วันก่อน โชคดีลูกจ้างกรีดยางออกไปกรีดยางทำให้รอดตายหวุดหวิด ส่วนบริเวณโดยรอบพบรอยเท้าช้างป่าเดินเหยียบย่ำไปทั่วเป็นหลุมลึกต้นยางพาราถูกช้างป่าโค่นล้มระเนระนาดได้รับความเสียหาย ส่วนที่ยังไม่ล้มก็มีร่องรอยถูกช้างใช้งาแทง

นายสุกฤต เอี่ยมจิตร อดีตผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ในพื้นที่หมู่ 9 ต.พวา ชาวบ้านประสบภัยจากช้างป่าทุกคนต่างต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง ฝูงช้างป่าบุกเข้ามากินและทำลายโค่นล้มเสียหายจนเกือบจะทั้งหมด


ขณะที่เจ้าของสวนยางเองก็ไม่อยากเสี่ยงชีวิตเข้ามาดูแลในสวน เนื่องจากไม่รู้จะทำอย่างไร ปัจจุบันเฉพาะพื้นที่หมู่ 9 มีช้างฝูงละกว่า 20-30 ตัว เข้ามาแบบวันเว้นวันจะมีอยู่ 4-5 ตัวเป็นช้างถิ่นไม่ทำลายพืชสวน ไม่ทำร้ายคน นอกนั้นไม่สามาถควบคุมได้ อยากให้ภาครัฐเข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งทำคูหรือคันช้างให้ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วนความคืบหน้าพบซากช้างพลายหนุ่มที่ถูกยิงล้มอยู่ในสวนยางพารา ซอยทางเข้าสำนักสงฆ์วัดป่าเขาไผ่ พื้นที่หมู่ 9 รอยต่อหมู่ 8 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์เก็บหัวกระสุนส่งผลตรวจพิสูจน์ให้พนักงานสอบสวนถึงสาเหตุการล้มแล้ว

หลังจากนี้จะได้เชิญตัวผู้ที่ดูแลสวนยาง ตลอดจนชาวบ้านใกล้เคียงมาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้ที่มีอาวุธและเครื่องกระสุน ที่ตรงกับของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งจากในที่เกิดเหตุ และจากซากช้างป่าเพื่อเร่งหาเบาะแสติดตามจับกุมผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป