คนชราเฮ มติ ครม. เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สูงสุด 1,250 บาท คนพิการได้ถ้วนหน้า 1,000 บาท
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งที่ 1 ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในหลักการ ปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้เงินเพิ่มดังนี้
มติ ครม. เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สูงสุด 1,250 บาท
- อายุ 60-69 ปี จากเดิมได้รับเดือนละ 600 บาท ปรับเพิ่มเป็นเดือนละ 700 บาท
- อายุ 70-79 ปี จากเดิมได้รับเดือนละ 700 บาท ปรับเพิ่มเป็นเดือนละ 850 บาท
- อายุ 80-89 ปี จากเดิมได้รับเดือนละ 800 บาท ปรับเพิ่มเป็นเดือนละ 1,000 บาท
- อายุ 90 ปีขึ้นไป จากเดิมได้รับเดือนละ 1,000 บาท ปรับเพิ่มเป็นเดือนละ 1,250 บาท
- ขณะที่คนพิการ ปรับเพิ่มจากเดิมได้รับเดือนละ 800-1,000 บาท เป็น 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า
เรื่องเงินอุดหนุนบุตร และเด็กเยาวชน อายุ 0-6 ปี ในครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เดิมได้เดือนละ 600 บาท ปรับเป็นให้เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้าโดยไม่ต้องมีการคัดกรองรายได้ พร้อมขยายอายุของเด็กให้ครอบคลุมตั้งแต่ในครรภ์ 4 เดือน
นอกจากนี้ยังให้มีการปรับแก้กฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา เพื่อขยายระยะเวลาให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 15 ปี โดยมีหน่วยงานของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบและสั่งให้กลับไปดำเนินการอย่างเร็วที่สุด
รับเงินครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ 3000 บาท มีรายละเอียดการสมัครอย่างไรบ้าง
เตรียมตัวรับเบี้ยยังชีพ วิธีลงทะเบียนผู้สูงอายุ ปี 2568
ใครบ้างที่มีสิทธิ์ลงทะเบียน?
ผู้สูงอายุรายใหม่ที่ยังไม่เคยลงทะเบียน และ ผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณ 2568 (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2508)
ขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่อายุครบ 59 ปีบริบูรณ์ แต่จะได้รับเงินเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ผู้สูงอายุที่เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพไว้แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
ลงทะเบียนที่ไหน?
ท่านสามารถลงทะเบียนได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของท่าน ดังนี้
- กรุงเทพฯ: สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ต่างจังหวัด: สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
เอกสารที่ต้องเตรียม
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาบัญชีธนาคาร (แนะนำให้ใช้ธนาคาร ธ.ก.ส. เพื่อความสะดวกในการรับเงิน)
ขั้นตอนการลงทะเบียน
1. นำเอกสารที่เตรียมไว้ไปยื่น ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ท่านมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
2. กรอกแบบฟอร์มคำขอลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
3. เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและข้อมูล
4. หากข้อมูลถูกต้อง ท่านจะได้รับบัตรประจำตัวผู้สูงอายุ
ช่วงเวลาการลงทะเบียน
ท่านสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – กันยายน 2568 ในวันและเวลาราชการ
