3 สิ่งของที่ใช้บ่อย แต่ทำความสะอาดน้อย สกปรกกว่า ฝารองนั่งชักโครก คืออะไร

เฉลยแล้ว ลองเช็กด่วน! 3 สิ่งของในบ้านที่ใช้บ่อย แต่ทำความสะอาดน้อย สกปรกกว่า ฝารองนั่งชักโครก คืออะไร

หากคุณคิดว่าคุณทำความสะอาดบ้านเพียงพอแล้ว คุณอาจต้องคิดใหม่อีกครั้ง การศึกษาวิจัยใหม่ได้เปิดเผยว่าพื้นผิวบางชนิดอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้มากกว่าที่นั่งชักโครก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน เชอร์ชิล บริษัทประกันภัยสำหรับบ้านในอังกฤษออกมาเปิดผลการศึกษาว่า รีโมตคอนโทรลของโทรศัพท์เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียมากกว่าฝารองนั่งชักโครกถึง 15 เท่า และมีเชื้อเอนเทอโรแบคเตอร์ในระดับสูงมาก

ถึงแม้จะมีการกดรีโมตคอนโทรลของทีวีประมาณ 150 ครั้งต่อวัน จากการสำรวจชาวอังกฤษ 2,000 คน แต่ 25% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้ทำความสะอาดรีโมตเลย เนื่องจากการละเลยเป็นเวลานาน รีโมตจึงกลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีแบคทีเรียหนาแน่นที่สุดในบ้าน ดังนั้น ผู้อ่านอย่าลืมตอบคำถามในใจว่า ครั้งสุดท้ายที่คุณทำความสะอาดรีโมตทีวีคือเมื่อไหร่

บริษัทเชอร์ชิลกล่าวเสริมว่า ผู้คนมักทำความสะอาดเช็ดถูบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่มักละเลยสิ่งของต่าง ๆ เช่น รีโมตคอนโทรลของทีวีที่ใช้บ่อย ซึ่งนอกจากรีโมตแล้ว ผ้าปูที่นอนเป็นบริเวณที่มีแบคทีเรียมากที่สุดเป็นอันดับสอง

บริษัทเชอร์ชิลได้ทำการสำรวจและเผยให้เห็นว่า ผู้คนมีแนวโน้มที่จะซักผ้าปูที่นอนอย่างน้อยทุก ๆ สองสัปดาห์ ในขณะที่ร้อยละ 29 ทำเช่นนั้นสัปดาห์ละครั้ง อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 7 ยอมรับว่าซักผ้าปูที่นอนเพียงครั้งหรือน้อยกว่านั้นทุก ๆ สองเดือน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าคุณควรซักผ้าปูที่นอนสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก ควรซักด้วยอุณหภูมิสูงเพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย

แถมโทรศัพท์มือถือยังเป็นไอเทมที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคอีกด้วย การวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนาแสดงให้เห็นว่าโทรศัพท์มือถือสกปรกกว่าฝารองนั่งชักโครกถึง 10 เท่า เนื่องจากผู้คนพกติดตัวเกือบตลอดเวลา แม้ว่าจะเข้าห้องน้ำก็ตาม

ซาราห์ ข่าน หัวหน้าบริษัท Churchill Home Insurance กล่าวว่า “ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าผู้คนไม่ควรนิ่งนอนใจเมื่อต้องทำความสะอาดบ้าน แม้แต่บริเวณที่ผู้คนเช็ดบ่อยที่สุด เช่น เคาน์เตอร์ครัว ก็อาจมีแบคทีเรียสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก”

“ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและเช็ดให้ทั่วถึงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ การซักผ้าปูที่นอนเป็นประจำและพัฒนานิสัยการล้างมือบ่อย ๆ และทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือทุกวัน เพื่อลดการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของแบคทีเรีย”

นอกจากนี้ บริษัทเชอร์ชิลยังเผยว่า มีแบคทีเรียสเตร็ปโตคอสคัส (Streptococcus) และเอนเทอโรแบคเตอร์ (Enterobacter) ในระดับสูงมากอาศัยอยู่บนพื้นผิวห้องครัว ซึ่งสเตรปโตค็อกคัสเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่คุกคามชีวิตได้ ในขณะเดียวกัน เอนเทอโรแบคเตอร์พบได้ในอุจจาระและอาจทำให้เกิดโรคปอดบวมและการติดเชื้อในกระแสเลือดได้