กระทรวงการต่างประเทศยืนยัน หญิงชาวไทยเสียชีวิต 1 ราย จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “กองเร็ย” ที่พัดถล่มไต้หวัน ขอให้ประชาชนระวังการเดินทาง ขณะที่ชาวไต้หวันออกมาเก็บกวาดซากความเสียหาย หลังพายุอ่อนกำลังลงขณะมุ่งหน้าชายฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า เมื่อเย็นวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย-ไทเป เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากไต้ฝุ่นกองเร็ย ซึ่งพัดถล่มพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของไต้หวันอย่างหนัก ส่งผลให้ไต้หวันต้องรับมือกับอุกทกภัยครั้งรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นบุคคลสัญชาติไทย และนอกจากนี้ยังมีชาวไต้หวันและบุคคลสัญชาติอื่นได้รับบาดเจ็บ 515 ราย
โดยคนไทยที่เสียชีวิตทราบชื่อคือนางสาวรุ้งสินีย์ ฮ่อธิวงศ์ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สุโขทัย ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองหนานโถว โดยเกิดอุบัติเหตุในระหว่างเดินทางไปกับนายจ้างชาวไต้หวัน ซึ่งเมืองหนานโถว เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากน้ำฝนที่ตกหนักตลอดทั้งวัน
นายนิกรเดช กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมกับให้คำมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือในทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ครอบครัวในการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทย โดยระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงแรงงานและทางการท่องเที่ยวของไต้หวันเพื่อช่วยดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์แก่ญาติของผู้เสียชีวิต ในขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานยังได้แจ้งญาติผู้เสียชีวิตถึงสิทธิประโยชน์และเงินทดแทนที่จะได้รับ เพื่อบรรเทาความสูญเสียที่เกิดขึ้น
ล่าสุด ไต้ฝุ่นกองเร็ยได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้วขณะเคลื่อนตัวไปตามช่องแคบไต้หวัน เข้าสู่ชายฝั่งของจีน ขณะที่สถานการณ์ในไต้หวันเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ น้ำท่วมได้ลดระดับลงแล้ว ขณะที่โรงเรียน ออฟฟิศต่างๆ และร้านค้าต่างกลับมาเปิดทำการ แต่ยังมีบางพื้นที่ที่กระแสไฟฟ้าดับเนื่องจากเสาไฟล้มจากแรงพายุ โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าเก็บกู้ซากความเสียหาย.