“สาเหตุการเสียชีวิตของนัทปง” นักข่าวช่องดังยังคลุมเครือ หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. ร.ต.อ.อังคาร ศรีโยธะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางกรวย จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุ นัท ณัฐวุฒิ ปงลังกา นักข่าวช่องดังเสียชีวิตภายในบ้านพักในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
จากการสอบสวนเพื่อนของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า หลังเลิกงานผู้เสียชีวิตกลับมาบ้านเพื่อพักผ่อนและนั่งดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อน ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนพักผ่อนในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง กระทั่งช่วงเช้าจึงมาพบว่านอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นห้องโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้และหืดหอบ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ต่อมาวันที่ 4 ธันวาคม 2568 แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้แจ้งผลเบื้องต้นมายังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า พบสารพิษในร่างกายของนายณัฐวุฒิ ส่วนผลชันสูตรอย่างเป็นทางการต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะส่งรายงานกลับมาให้พนักงานสอบสวน ด้านเพจดาวแปดแฉกได้รายงานว่า สารพิษที่พบในร่างของนัทปงนั้นคือสารไซยาไนด์
ภายหลังได้รับรายงาน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 1 สืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี และสืบสวน สภ.บางกรวย ประชุมแบ่งหน้าที่เพื่อคลี่คลายสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในบ้านวันเกิดเหตุ เพื่อเรียกตัวมาสอบปากคำ พร้อมเตรียมนำตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบภายในบ้านเกิดเหตุอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นงานศพ
สำหรับร่างของนายณัฐวุฒิ ทางครอบครัวและต้นสังกัดได้นำมาทำพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมศพเพียง 2 วัน คือวันที่ 1 – 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ วัดกล้วย จังหวัดนนทบุรี จากนั้นครอบครัวได้รับร่างกลับไปทำพิธีต่อที่วัดริมกก ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม และเดิมมีกำหนดฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม นี้
นอกจากนี้ สัปเหร่อวัดกล้วย ยังระบุด้วยว่า สภาพศพที่เห็นยอมรับว่าแยกไม่ออกเลยว่าเสียชีวิตด้วยโรคหรือถูกวางยา เพราะศพมีการตกแต่งมาจากโรงพยาบาลแล้ว ประกอบกับใบมรณบัตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ ตนจึงไม่ได้สังเกตสิ่งผิดปกติเป็นพิเศษ ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าสภาพศพมีลักษณะผิดปกติหรือไม่
