หมอเผยเอง “5 มะเร็ง” ที่เช็กได้ที่บ้าน แถม ไม่ต้องใช้อุปกรณ์

หมอเจด” นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า

5 มะเร็งที่เช็กได้ที่บ้าน
แบบไม่ต้องใช้อุปกรณ์ !!

พูดถึง “มะเร็ง” หลายคนอาจรู้สึกกลัว หรือไม่อยากได้ยินชื่อนี้เลย
แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่น่ากลัวกว่ามะเร็ง คือ การเจอมะเร็งตอนสายเกินไป
เพราะบางคนรู้ตัวอีกทีตอนมะเร็งลุกลามไปไกลแล้ว โอกาสรักษาก็จะน้อยลงเรื่อยๆ
จริงๆแล้วหลายมะเร็ง “ส่งสัญญาณเตือน” ให้เราเห็นได้ตั้งแต่แรกๆ
และบางอย่างเราสามารถ “ตรวจเองได้ที่บ้าน” ไม่ต้องเรียนหมอมาก่อนเลยด้วยซ้ำ!

วันนี้หมอจะพามารู้จัก 5 มะเร็งที่คนทั่วไปสังเกตได้เอง
แค่ใช้สายตาและมือของเรา กับการสังเกตตัวเอง ก็อาจช่วยชีวิตได้
แต่ออกตัวไว้ก่อนนะ ยังไงก็ยังแนะนำให้ตัวสุขภาพเป็นประจำนะครับ
บางมะเร็งหรือบางอาการเราอาจเช็กด้วยการสังเกตไม่ได้ หรือเราอาจจะพลาดตรงนี้
แต่โพสต์นี้เขียนมาเพื่อนอยากให้ทุกคนที่อ่านหันมาสังเกตตัวเองมากขึ้นนะ

1. มะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมคือมะเร็งที่ผู้หญิงไทยเป็นกันเยอะที่สุด
แต่รู้ไหมว่าถ้าตรวจเจอตั้งแต่ระยะแรกๆ โอกาสหายสูง
สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรทำคือ คลำเต้านมด้วยตัวเอง เอาเป็นตอนอาบน้ำก็ได้ครับ ทุกวันได้ก็จะดี
วิธีเช็กง่ายๆ
•ยืนหน้ากระจก มองดูว่าเต้านมสองข้างเท่ากันไหม หัวนมบุ๋มหรือบิดไหม
•ใช้ 3 นิ้วกลาง คลำเป็นวงกลมทั่วเต้านม และใต้รักแร้
•ทำตอนอาบน้ำหรือตอนทาครีมก็ได้ จะได้ลื่นๆ ไม่ฝืด
สัญญาณที่ควรรีบไปหาหมอ
•คลำเจอก้อนแข็ง ไม่เจ็บ
•มีของเหลวไหลออกจากหัวนม โดยเฉพาะถ้ามีเลือด
•ผิวเต้านมเหมือนลักยิ้ม ผิวส้ม
•เต้านมเปลี่ยนขนาดหรือรูปร่างจากเดิม
ถ้าคลำหรือเจออะไรผิดปกติ แนะนำรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลนะ
ก้อนเล็กๆ ที่เจอตั้งแต่แรก อาจเป็นตัวช่วยให้รักษาทัน
อย่ารอให้มันโต หรือเจ็บแล้วค่อยไปตรวจนะครับ

2. มะเร็งอัณฑะ
ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักมะเร็งชนิดนี้ ทั้งที่เป็นมะเร็งที่เกิดกับผู้ชายวัยหนุ่ม อายุ 20–40 ปี
ข่าวดีคือ…มัน ตรวจเจอเองได้ง่ายมากๆ
วิธีคลำอัณฑะ
•ทำตอนอาบน้ำ (น้ำอุ่นจะช่วยให้ถุงอัณฑะหย่อน คลำง่ายขึ้น)
•ใช้สองมือจับลูกอัณฑะทีละข้าง ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้คลำเบาๆ
•หาว่ามีก้อนแปลกๆ แข็งๆ อยู่ไหม
สัญญาณที่ควรสงสัย
•มีก้อนเล็กๆ คล้ายเมล็ดถั่ว
•อัณฑะบวม เจ็บ หรือรู้สึกหนักๆ
•รู้สึกแน่นที่ท้องน้อยแบบไม่มีเหตุผล
ถึงแม้จะไม่ใช่มะเร็งที่พบได้บ่อย แต่มันรักษาได้หายง่าย ถ้าเจอเร็ว
อย่ารอให้เจ็บหรือโตเกินไปก่อนค่อยไปหาหมอนะครับ

3. มะเร็งผิวหนัง
หลายคนคิดว่า “คนไทยไม่ค่อยเป็นมะเร็งผิวหนัง” เพราะเราไม่ใช่ผิวขาวแบบฝรั่ง
แต่จริงๆ แล้ว มะเร็งผิวหนัง ก็พบในคนเอเชียได้ โดยเฉพาะถ้าเจอแดดแรงบ่อยๆ
สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เลยคือ
ส่องกระจกดูผิวตัวเอง เดือนละครั้ง
เช็กตั้งแต่หนังศีรษะ ใบหน้า ใต้เล็บ หลังหู ไปจนถึง “ฝ่าเท้า”
ไฝแบบไหนที่ควรสงสัยว่าเสี่ยงมะเร็ง? (สูตร ABCDE)
•Asymmetry: รูปร่างไม่สมดุล
•Border: ขอบไฝไม่เรียบ เป็นหยัก
•Color: มีหลายสีในจุดเดียว เช่น น้ำตาล+ดำ+ชมพู
•Diameter: ใหญ่กว่า 6 มม. (ประมาณยางลบดินสอ)
•Evolving: เปลี่ยนขนาด สี หรือเริ่มมีเลือดซึม
นอกจากไฝ อย่างอื่นที่ต้องเช็กคือ
1.แผลเรื้อรังที่ไม่ยอมหายสักที
•ถ้ามีแผลที่อยู่เกิน 3–4 สัปดาห์ โดยไม่มีแนวโน้มจะหาย (ทั้งที่ไม่ได้เกา ไม่ได้ชน)
•แผลเป็นสะเก็ดแข็ง ๆ ซ้ำ ๆ หรือแผลที่ตกสะเก็ดแล้วหลุด แต่ออกมาใหม่เรื่อย ๆ
2.ก้อนนูนเล็ก ๆ สีแดง ชมพู หรือใสที่ดูเหมือนไม่ใช่สิว
•โดยเฉพาะถ้าอยู่ในจุดที่โดนแดดบ่อย เช่น หน้า จมูก ขมับ คอ แขน
•บางครั้งมีเส้นเลือดฝอยอยู่ข้างใน หรือก้อนโตช้า ๆ แบบไม่เจ็บ
3.รอยผิวลอกเป็นขุย แห้งเป็นหย่อม ๆ แบบเรื้อรัง
•โดยเฉพาะถ้าอยู่ในตำแหน่งเดียวเดิมนาน ๆ เช่น หลังมือ หน้าแข้ง หรือกลางใบหน้า
•ไม่ตอบสนองต่อยาทาทั่วไป หรือเป็นแล้วหาย เป็นอีกซ้ำ ๆ
4.ผิวเปลี่ยนสี หรือมีรอยแดงแปลก ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
•อาจเป็นรอยแดงที่ขยายวงช้า ๆ หรือมีอาการแสบ คันร่วมด้วย
5.เล็บผิดปกติ เช่น มีเส้นดำพาดตามยาว หรือเล็บเปลี่ยนรูป
•เส้นดำที่ลากยาวจากโคนเล็บจนถึงปลายเล็บ อาจเป็นสัญญาณเตือนของ melanoma ใต้เล็บ
•หรือถ้าเล็บบุ๋ม หนา แตก ลอก หรือมีเนื้อเยื่ออ่อน ๆ โผล่ออกมาใต้เล็บ ก็ไม่ควรละเลย
6.ก้อนใต้ผิวหนังที่โตขึ้นเรื่อย ๆ
•เช่น ก้อนเนื้อแข็ง ๆ ที่ผิวหนัง หรือชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจไม่เจ็บ แต่โตขึ้นแบบเงียบ ๆ
•โดยเฉพาะถ้ามีการเปลี่ยนสี หรือผิวด้านบนดูบางลง แตกเป็นแผล
7.ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ที่มีจุดคล้ำใหม่ ๆ หรือแผลลึกแบบไม่มีสาเหตุ
•มะเร็งผิวหนังของคนเอเชีย มักเจอในจุดที่ “ไม่โดนแดด” เช่น ฝ่าเท้า ง่ามเท้า หรือซอกนิ้ว
ถ้าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรตรวจผิวหนังทุกเดือน และพบแพทย์ผิวหนังปีละครั้ง
โดยเฉพาะถ้าไฝมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม

4. มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้เป็นมะเร็งยอดฮิตอีกชนิดในไทย และพบมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่หลายคน “ไม่รู้ตัว” ทั้งที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือนอยู่ทุกวัน
หนึ่งในวิธีดูสัญญาณเบื้องต้นก็คือ…
ดูอึตัวเอง ครับ
สัญญาณเตือนผ่านอุจจาระ
•รูปร่างอุจจาระเปลี่ยน เช่น ผอมเหมือนด้าย หรือแบนๆ
•ถ่ายไม่สุด ท้องอืด ลมเยอะ
•มีมูกเลือด หรือเลือดปนในอุจจาระแบบล้างไม่ออก
•น้ำหนักลด เหนื่อยง่ายแบบไม่มีสาเหตุ
ถ้ามีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ หรืออายุเกิน 50 ปี
ควรเริ่ม ตรวจ FIT test (หาเลือดในอุจจาระ) ปีละครั้ง
ถ้าผิดปกติ → ไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ทันที
อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ อย่างการถ่ายผิดปกติ เพราะมันอาจเป็นเสียงเตือนที่ช่วยให้คุณรอดครับ

5. มะเร็งไทรอยด์
มะเร็งไทรอยด์เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในผู้หญิงวัย 30–50 ปี
ส่วนใหญ่ไม่เจ็บ ไม่แสดงอาการรุนแรงในช่วงแรก
แต่ “สัญญาณเตือน” บางอย่างสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง แ
วิธีสังเกตก้อนที่คอเบื้องต้นด้วยตัวเอง ทำง่ายๆครับ
1.ยืนหน้ากระจกในที่มีแสงสว่างดี
หันหน้าเล็กน้อยด้านข้าง คอยืดตรง และกลืนน้ำลายช้า ๆ
ถ้าสังเกตเห็นก้อนเคลื่อนไหวขึ้นลงตามการกลืน → อาจเป็นก้อนที่ต่อมไทรอยด์
2.คลำบริเวณคอส่วนหน้า-ล่าง (บริเวณลูกกระเดือกลงมาเล็กน้อย)
ใช้นิ้วมือคลำบริเวณนี้ช้า ๆ ถ้ามีก้อนหรือความรู้สึก “ตึง ๆ ผิดปกติ”
หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกดทับอยู่ในคอ → แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม
อาการเตือนอื่น ๆ ที่ไม่ควรละเลย
•มีก้อนโตขึ้นเรื่อย ๆ ที่บริเวณลำคอ (แม้จะไม่เจ็บก็ตาม)
•รู้สึกกลืนลำบาก หรือเหมือนมีอะไรมาจุกคอตลอดเวลา
•เสียงแหบแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเป็นนานเกิน 2 สัปดาห์
•ไอเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ (ไม่มีไข้ ไม่มีเสมหะ)
•หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลานอนราบหรือออกแรง
สิ่งที่ผมอยากฝากไว้คือ

“การเช็กตัวเอง ไม่ใช่แค่การป้องกันมะเร็ง แต่คือการใส่ใจตัวเองในทุกๆ วัน”
มะเร็งบางชนิดไม่แสดงอาการตอนเริ่มต้น
ดังนั้นถ้าเจออะไรแปลกไปจากเดิม → อย่าชะล่าใจ
ไปหาหมอ ตรวจให้แน่ใจ ดีกว่ารอให้มันลุกลาม
และอย่าลืมว่า การตรวจสุขภาพประจำปี ก็สำคัญ
เพราะบางมะเร็ง (เช่น ตับ ปอด) ไม่สามารถรู้ได้ด้วยการคลำ ต้องอาศัยการตรวจเลือดหรือเอกซเรย์
ดูแลตัวเองด้วยนะครับ ใครมีคำถามคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะ