ผู้ต้องหาหนีหมายจับกว่า 19 ปี ถูกรวบคาโรงพยาบาล หลังตำรวจกองปราบฯ ที่รับผิดชอบคดี บังเอิญได้ยินชื่อ ขณะพาแม่ไปตรวจสุขภาพ
วันที่ 18 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกำลังตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมษฐ์ อัครโชควรานนท์, พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.หาดใหญ่ นำหมายจับเข้าจับกุม นายสุระภัย เพชรพันธ์ อายุ 49 ปี ชาว ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา คาลานจอดรถของโรงพยาบาล ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัด ซึ่งถูกออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2548
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และหลบหนีการจับกุมมาตลอด 19 ปี และเหลืออีกแค่ 5 เดือน คดีก็จะหมดอายุความแล้ว แต่สุดท้ายก็มาถูกตำรวจกองปราบจับกุม เพราะว่าป่วยเป็นเนื้องอกที่ขาทนเจ็บไม่ไหว ต้องยอมออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากที่ตลอด 19 ปีที่ผ่านมาเก็บตัวเงียบมาตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับคดีนี้ เมื่อกลางปี 2548 ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดบริเวณถนนเสน่หาณุสรณ์ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสุระภัย เพชรพันธ์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคู่กรณีกับผู้ตาย แต่หลังก่อเหตุ นายสุระภัย ไหวตัวทันหลบหนีการจับกุมไปได้ และหนีเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 19 ปี
จนกระทั่งวันนี้ ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 นายหนึ่งได้พาแม่ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ ขณะนั่งรอคิวในโรงพยาบาล ได้ยินเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเรียกชื่อ นายสุระภัย เพชรพันธ์ เมื่อฟังแล้วรู้สึกคุ้นว่าน่าจะเป็นผู้ต้องหาที่ได้เฝ้าติดตามอยู่ จึงได้โทรศัพท์เรียกกำลังเสริมมาช่วยตรวจสอบ
เบื้องต้น นายสุระภัย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุ ตนได้เข้าห้องน้ำด้านหลังร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ขณะเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากภายในร้าน จึงตกใจกลัวเลยวิ่งออกจากห้องน้ำ แล้ววิ่งหนีจากที่เกิดเหตุไป และมาทราบภายหลังว่าถูกออกหมายจับ จึงกลัวและหลบหนีมาตลอด.