เดือดร้อนทั้งเมือง! ผู้รับเหมาเอกชน ลาดยางมะตอยพื้นถนน โครงการฯเทศบาล งบ 6 ล้าน ไม่มีป้ายเตือน ไม่ปิดถนน ยางมะตอยติดล้อรถ-ตัวรถเสียหายยับเยินกว่า 100 ราย แห่ขึ้นโรงพักแจ้งความล้น สูญเสียเงินเข้าคาร์แคร์ขจัดคราบหลายพันบาท เรียกร้องถามหาคนรับผิดชอบ ขณะที่เทศบาลฯยังเงียบ
วันที่ 12 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรผ่านถนนสายขนานทางรถไฟ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าถนนสายทางรถไฟวังตอ ซึ่งอยู่ในระหว่างที่เทศบาลนครตรัง ได้เป็นเจ้าของดำเนินการจัดทำโครงการปรับปรุงผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต โดยมีบริษัทผู้รับจ้าง เข้ามาทำงานในงบประมาณจำนวน 6,030,000 บาท แต่ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วันนี้ผู้รับจ้างได้ทำการลาดยางมะตอยเต็มพื้นถนนตลอดสาย
แต่ปรากฏข้อเท็จจริงทางกายภาพว่าไม่ได้มีการปิดถนนทางสัญจร และไม่มีป้ายแจ้งห้ามใช้เส้นทาง หรือป้ายสัญญาณเตือนใดๆ ทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ทราบว่ามีการลาดยางมะตอยจึงได้ขับรถเข้าเส้นทางจนทำให้ยางมะตอยที่ลาดอยู่บนพื้นถนนติดล้อ ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ และยังทำให้ยางมะตอยที่ติดล้อยางกระเด็นขึ้นมาติดใต้ท้องรถ ใต้ซุ้มล้อ และผิวสีตัวรถจนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก คาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 คัน
ต่อมาผู้เสียหายได้มีการโพสต์แจ้งเตือน รวมทั้งถามหาตัวผู้รับผิดชอบผ่านทางเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของผู้รับจ้าง และการควบคุมดูแลจากเทศบาลนครตรัง ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างถึงการประมาทเลินเล่อ ปล่อยปละละเลย หละหลวม สะเพร่าในการดำเนินการ จนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกันผู้เสียหายต่างทยอยเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.เมืองตรัง แล้วกว่า 30-40 ราย โดยต่างทยอยกันมาตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงช่วงมืดค่ำ และคาดว่ายังคงมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งอย่างต่อเนื่องอีกจำนวนมาก
ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่ได้นำผู้สื่อข่าวไปดูรถที่สภาพถูกยางมะตอยเคลือบหนาติดอยู่บนหน้ายางและขอบยาง บางคันหนาหลายเซนติเมตร และส่วนใหญ่ยางมะตอยยังกระเด็นขึ้นมาติดสีรถ และใต้ท้องรถอีกเป็นจำนวนมาก และต่างต้องนำรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายไปล้างขัดยางมะตอยกับร้านคาร์แคร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขัดยางมะตอยไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทไปจนถึง 2,500 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดรถ จำนวนยางมะตอยมากหรือน้อย นำออกยากหรือออกง่าย ส่วนบางคันไม่สามารถขจัดยางมะตอยออกได้ทั้งหมดทำให้ยางล้อรถเสียหายไปทั้งเส้น ไม่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นถนนได้ตามเดิม รวมทั้งตัวสีรถอีกด้วย
น.ส.สิริน อายุ 35 ปีอาชีพรับราชการ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่าขับเข้ามาถนนดังกล่าวเพื่อจะมารับแมวที่คลินิก ซึ่งทางเข้าซอยทุกทางไม่มีป้ายบอกว่าห้ามเข้าหรือแจ้งเตือน ขณะขับอยู่ก็รู้สึกปกติแต่เมื่อลงมาจากรถก็พบว่ายางมะตอยได้ติดหนาทั้ง 4 ล้อและทั้งซุ้มล้อแล้ว หลังจากนั้นรีบนำรถไปเข้าคาร์แคร์สำหรับขัดยางมะตอย ค่าเสียหายในการขัดของตนอยู่ที่ 1,200 บาท บางคันที่ไปพร้อมกันก็ 1,500 บาท คันเล็กหน่อยก็ 1,000 บาท
” แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 บาททั้งนั้น ก็เลยมาแจ้งบันทึกประจำวันไว้ก่อน แต่หากไม่มีการเข้ามารับผิดชอบ ก็จะดำเนินการไปอีกขั้นหนึ่ง วันนี้ผู้เสียหายเยอะมาก อยากเรียกร้องไปยังผู้ดำเนินการออกมารับผิดชอบ เพราะไม่มีป้ายเตือน ป้ายบอก ซึ่งผู้เสียหายในวันนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ราย และภายหลังจากที่มีผู้เดือดร้อนจำนวนมากแล้ว ก็ยังมีรถขับเข้าผ่านไปอีกหลายคัน และยังไม่มีการเข้ามาปิดถนนอีกด้วย ”
ด้านนายนพรัตน์ อายุ 54 ปี อีกหนึ่งผู้เสียหาย บอกว่า เหตุเกิดขึ้นเพราะการก่อสร้างลาดยางมะตอย แต่ไม่มีแผงกัน ประชาชนที่สัญจรไปมาไม่ทราบได้ว่ามีการลาดยางมะตอย เพราะเป็นถนนสาธารณะที่สัญจรไปมาได้จนทุกคนได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งมีปัญหาในการล้าง การซ่อม การรักษารถยนต์ อยากให้ทางผู้เกี่ยวข้องทำให้งานให้ละเอียด ส่วนที่มาโรงพักกันเพราะอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามารับผิดชอบในความเสียหายของรถยนต์ ซึ่งตนเสียค่าใช้จ่ายในการขจัดยางมะตอยไป 1,500 บาท ซึ่งการทำงานหละหลวม การทำถนนเข้าใจได้ว่าเป็นสิ่งดีเพื่อให้สัญจรสะดวก แต่การทำงานถนนกลับเปิดโล่งทั้งที่ลาดยางมะตอยแล้ว
ส่วน นายยงยุทธ หรือผู้ใหญ่สุข ผู้เสียหายอีกคน กล่าวว่า ยางมะตอยติดล้อรถ เพราะไม่รู้ ฝนตกหนัก ป้ายปิดทางสัญจรไม่มี เข้าออกได้ตลอด อยากให้ทางเทศบาลฯและผู้เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบความเสียหาย จนทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนและอันตราย
เบื้องต้นผู้เสียหายได้พยายามติดต่อไปยังเทศบาลนครตรัง ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และยังไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือฝ่ายบริหารเทศบาลฯ ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือชี้แจง หรือขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างได โดยผู้เสียหายทั้งหมดได้ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อรวมกลุ่มกันไว้ รวมทั้งได้ถ่ายภาพความเสียหายของตัวรถ รวมทั้งบิลใบเสร็จจากการเข้าร้านคาร์แคร์เพื่อขจัดคราบยางมะตอยไว้เป็นหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ถนนสายดังกล่าวเป็นหนึ่งในถนนสายที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบ เนื่องจากมีการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าถนนยังมีสภาพดีอยู่ แต่ปรากฏว่าได้มีการรื้อถนนเดิมออกแล้วทำใหม่ ซึ่งขณะนี้เรื่องยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจากสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง โดยเทศบาลนครตรัง ได้จัดทำโครงการ ปรับปรุงผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต ตั้งแต่ 1 มี.ค.2567 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2567 รวม 34 โครงการ งบประมาณ 170,529,480.16 บาท
